ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : เรียนถาม พี่ เด็กตลาดช่องแค ครับ

(D)
ผมสนใจอยากศึกษา รุ่นฟ้าผ่าครับ ทราบว่ามีอยู่หลายเนื้อ ทั้งเข็ม จนถึงขาว มีการสร้างอย่างไรครับ แต่ละเนื้อสร้างกี่องค์ครับ ถ้าจะสังเกตุที่เนื้อพระ จะต้องส่องพบอะไรเป็นสำคัญครับ (ผมไม่แน่ใจว่าพี่เคยเขียนเอาไว้หรือป่าว แต่ผมหาไม่เจอครับ)
ขอขอบพระคุณพี่ครับ ที่ให้ความรู้ครับ

โดยคุณ goodboyth (18)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 09:36 น.]



โดยคุณ เด็กตลาดช่องแค (449)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 12:34 น.] #101916 (1/15)
ก่อนอื่นขอบคุณครับทีให้เกียรติผม ผมเขียนเท่าที่ผมมีข้อมูลนะครับ แต่ว่าอย่าเชื่อมากครับ

ยาวหน่อยนะครับ

โดยคุณ เด็กตลาดช่องแค (449)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 12:34 น.] #101917 (2/15)
รุ่นนี้หลวงพ่อตั้งใจทำมากครับ ทั้งหามวลสารเอง คุมการบด(ใช้ครกบดยาจีนนะครับ) และแกะพิมพ์เอง การผสม และกดพิมพ์ และคนช่องแคก็มา

ร่วมใจกัน บนศาลาหลังเก่า (ปัจจุบันกลายเป็นลานจอดรถ)พวกเขา ทำให้กับหลวงพ่อที่เขาศรัทธา เพื่อแจกให้เช่าบูชา ไม่มีพุทธพาณิชย์และไม่ได้ทำ

เพื่อใช้แจกงานส่วนตัว เพื่อเป็นที่ระลึกงานยกช่อฟ้ามณทป ปลายปี 12 ครับ (อธิฐานจิต เสาร์ 5) ด้วยเหตุที่ท่านแกะพิมพ์เองนะครับ แล้วท่านอายุ

มากแล้ว จึงแกะตื้นๆๆนะ รวมทั้งเป็นรุ่นที่หลวงพ่อดำริจะจัดสร้างมาหลายปีแล้ว ตอนแรกจะทำตอนงานฝั่งลูกนิมิตร แต่เนื่องจาก ความไม่พร้อมหลาย

อย่างจึงไม่ได้ทำช่วงนั้น

เนื้อมวลสารที่ผสม ก้นบุหรี่ ชานหมาก ผงวิเศษแก้ว 3 ดวง ว่าน108 อย่าง เนื้อหมากสดตากแห้ง กล้วยน้ำหว้า ปูนขาว น้ำมันตั้งอิ้ว ดอกไม้แห้ง

บูชาพระในกุฏิหลวงพ่อ ผงอิทธิเจ ทรายเสก น้ำมนต์

รุ่นนี้ จริง แล้ว สีพระดังเดิมพื้นฐาน ถ้ามวลสารครบ จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม รุ่นนี้มี 3 เนื้อ ตามที่ วงการแบ่งกันคือ แต่ถ้าผมแบ่งเองผมจะแบ่ง 4 เนื้อ
1) เนื้อเขียว ใส่สีที่ใส่ปูนขัดเขียวลงไป มีประมาณ 200 องค์ หรือ 1 แผ่นกระจก เวลาเอาไปตากแดด (จำนวนจริงๆๆไม่มีใครนับหรอกครับ)

ไว้แจกกรรมการ
2) เนื้อน้ำตาลเข้ม อันเป็นสีพื้นฐานดังเดิม ของรุ่นนี้ครับ
3) เนื้อน้ำตาลอ่อน ถึง เนื้อขาว เมื่อมวลสารใกล้หมด แต่จำนวนยังไม่ถึงที่ต้องการ จึงเติมปูนขาว ลงไปสีจึงออกสีน้ำตาลอ่อน ยิ่งใส่มากยิ่งออกสีขาว

เลย และเป็นเนื้อที่ปลอมง่ายสุดครับ

4) ส่วนแบบที่ 4(ผมแยกออกมาเองจากการค้นคว้าของผม)อันนี้วงการไม่ยอมรับ เพราะคนรู้น้อย คือเนื้อเหลือง องค์พระจะเหลือง ทั้งเนื้อครับ เนื้อ

ในด้วย ไม่ใช่เหลืองแค่ผิว หรือด้านใดด้านหนึ่ง ถ้าส่องดูจะเห็นผงขมิ้น ผมว่ารุ่นนี้ น่าจะน้อยสุด เพราะทำแจกแม่ครัว แค่ถาด ใบเดียวเวลาตากแดด

ตั้งแต่ผมเกิดมา ผมเห็นเนื้อขมิ้น แค่ 3 องค์เองครับ เนื้อเขียวยังเห็นมากกว่าอีก อันนี้อย่าสับสนกับเนื้ออื่น เช่นเนื้อขาวไปชุบขมิ้นนะครับ คนละแบบ

กัน ตรงนี้หลายคนเท่าที่ดูยังสับสน

ที่นี้ตอนผสม ตอนที่หลวงพ่ออยู่ก็ทำกันดีขยันกันทำ แต่พอหลวงพ่อไปพัก ก็ผสมกันมั่ว จนทำให้รุ่นนี้เนื้อหา หลากหลายมากครับ ท่านที่เคยทำพระผงจะ

เข้าใจว่าทำไมเนื้อหาหลากหลายได้ ผมเองยังเคยเห็นเนื้อขมิ้นเลย (สีเหลืองทั้งเนื้อใน)อันนี้ทำไม่กี่องค์ไว้แจกแม่ครัว แต่ยืนยันว่าเนื้อน้ำตาลเข้ม

เป็นพื้นฐานของรุ่นนี้ เนื้อเขียวเกิดจากการเอาสีใส่ปูนขัดสีเขียว มาผสม จำนวนจริงไม่มีใครทราบหรอกครับ แต่ตอนตากแดด ประมาณหนึ่ง แผ่นกระจก

พอมวสสารเริ่มหมด หลวงพ่อก็ให้เพิ่มสัดส่วนปูนขาวไป ทำให้สีเนื้อพระเป็นสีน้ำตาลอ่อน ถ้ายิ่งใส่มากก็เป็นเนื้อขาวเลย สำหรับเนื้อน้ำตาลเข้ม กับ

น้ำตาลอ่อน(เนื้อขาว)นั้น ไม่ทราบจำนวนครับแต่เข้าใจกันว่าหลักหมื่น ส่วนเรื่องยันต์ ข้างหลัง เขามาปั๊มตอนให้บูชากัน บางคน ก็เอามาปั๊มหลังจาก

นั้นหลายปี บางคนก็เอาหมึกจีนมาปั๊มเองเพราะอยากให้พระตัวเองแปลกว่าชาวบ้าน โดยยืมตรายันต์วัดปั๊มนะครับ ตอนนั้น ตราวัด ตรายันต์ ที่วัดไม่

ค่อยซีเรียดครับ รุ่นที่ปั๊มให้ตอนบูชาจะเป็น ยันต์เส้นบางครับ ถ้าหมึกจีนจะเป็นยันต์เส้นหนา อีกอย่างปั๊มสมัยนั้นจะใช้หมึกดำ ทั้งตราวัดและตรายันต์

แต่ถ้ามาปั๊มภายหลัง อาจเป็นปี 16-18 ก็ได้ จะหมึกน้ำเงิน

สำหรับเรื่องการเลี่ยม ที่เห็นหลายคนเข้าใจผิด (หรือว่าผมอ่านจับใจความผิด) คือ รุ่นนี้ไม่ได้เลี่ยมออกจากวัดนะครับ เพียงแต่ว่า มีคนมาเช่าจำนวน

มาก จึงมีช่างจากหน้าตลาดช่องแค (โทษทีครับผมจำชือ่ไม่ได้ แต่เป็นคนเดียวกับที่เลี่ยมรูปถ่ายหลังตะกรุดสามดอกปี 15-16 นะครับ) มาตั้ง

โต๊ะรับเลี่ยม ที่ศาลาเลย

ส่วนเรื่องที่คนโดนฟ้าผ่าแล้วไม่ตาย ที่ทำให้หลวงพ่อดัง จนลูกศิษย์กรุงเทพฯเข้าหามากครับ คือ น้องชายกรรมการวัด (ผมจำชื่อไม่ได้) คนหนึ่งได้

หยิบพระเนื้อน้ำตาลเข้มจากกะลามัง และได้ขอหลวงพ่อ หลวงพ่อพยักหน้า และได้เดินลงศาลา ออกไปจะรีบกลับบ้าน ตอนนั้นครึมฟ้าครึมฝน จึงโดน

ฟ้าผ่าหมดสติ หลวงพ่อให้นำตัวขึ้นมาบนศาลา แล้วเป่าน้ำมนต์ บอกว่าไม่เป็นอะไรแล้ว แล้วแกก็ฟื้น นอกจากเสื้อผ้าตรงจุดที่โดนฟ้าผ่าเป็นรอยไหม้

และตามเนื้อตัวเป็นรอยฟกช้ำ นอกนั้นแกไม่เป็นอะไรเลย

น่าสังเกตไหมครับ ทำไมรุ่นที่หลวงพ่อตั้งใจทำ และดังจากรุ่นนี้ กลับได้รับความนิยมน้อยกว่ารุ่นที่ลูกศิษย์ทำขึ้นเพื่อแจกงานส่วนตัว เป็นเรื่องเกี่ยวกับ

ผลประโยชน์ และการให้ข่าวกับสื่อครับ (อันนี้ต้องหลังไมค์ครับ ค้นคว้าไปจอตอบอกสาธารณะไม่ได้)

สำหรับรุ่นนี้ถ้าอยากเก็บ อยากให้เก็บเนื้อน้ำตาลเข้มมวลสารครบ ไม่จำเป็นต้องมียันต์ข้างหลังก็ได้ จะได้ประหยัดเงินได้ 1000 บาทนะครับ เพราะ

มียันต์จะแพงกว่าไม่มียันต์เฉลี่ย พัน บาทครับ รุ่นน้ำตาลเข้มมวลสารครบ ไม่สวย ก็ประมาณ 5-6 พัน ถ้าสวย ก็ 6-7 พัน ถ้ามียันต์ ก็บวกเพิ่ม

ไปครับ 1000 ถ้ามวลสารไม่ครบ ก็ลดหลั่นลงไป ถ้ามียันต์ก็บวกพัน ส่วนเนื้อขาว มีช่วงหนึ่ง มีการตุนไว้เยอะ ปล่อยข่าวว่า มีการลองยิงที่ หลัง

อตก. 3 ปืนด้าน ครับ ซึ่งก็สำเร็จ จากเนื้อขาวราคาครึ่งเนื้อน้ำตาล ตอนนี้ เท่าแล้ว และมีแนวโน้วทำท่าจะมากกว่าด้วย ถ้าไม่เจอบารมีองค์พ่อจตุคาม

ด้วยเหตุผลการปั่น ว่า สร้างน้อย แล้วทดลองยิงแล้ว แต่กับมวลสาร หรือเนื้อองค์พระจริง ที่โดนฟ้าผ่า สังเกตไม่มีคนพูดถึงเลยครับ วงการพระราคา

พระ จะไปตามทิศทางเซียนใหญ่นะครับ ก็เล่นอย่างตามกระแสละกันครับ เหตุผลสองคำครับ "ขายได้"

สำหรับการดูพระรุ่นนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่าเป็นรุ่นที่ทำได้หลากหลายเนื้อ ต้องดูหลายๆวิธี สำหรับผมเริ่มแรกสุดนะครับ ดูพิมพ์ก่อน ถ้าพิมพ์ผิดชัดเจนก็

ไม่ต้องหยิบแล้วนะครับ แต่ว่า เรื่องดูพิมพ์เนี้ยดูลำบาก เนื่องจากว่า พิมพ์ตื้น และไม่ค่อยชัด เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ปลอมพิมพ์ได้ง่าย ส่วนการดูผดตัว

หนอน บางองค์ก็ขึ้นบางองค์ก็ไม่ขึ้นนะครับ ดูลำบากดูแล้วก็ไม่ได้ข้อยุติอีก จะดูความแห้งขององค์พระที่หลายคนดู ในความคิดผมว่าก็ดูไม่ได้นะครับ

เพราะเนื่องจากรุ่นนี้บางองค์ (จำนวนมากด้วย) จะเลี่ยมแบบนี้ตั้งแต่เช่าจากวัดใหม่ๆ บางองค์ก็เลี่ยมหลังจากนั้น จึงทำให้การแห้งของเนื้อ ไม่ตรงกัน

ผมมีอยู่องค์ที่บ้าน เลี่ยมตั้งแต่เช่าจากวัด แกะพลาสติกออก แกล้งเอาไปแย้งที่ ฟิวเจอร์บางแค คนที่นั้นตีแก้ครับ แต่ผมจำชื่อร้านไม่ได้ แกบอกผิวเปียก

ดูใหม่ พระใหม่ ฟ้าผ่าเนื้อต้องแห้ง ดังนั้นรุ่นนี้ในความเห็นผมดูเนื้อมวลสารดีที่สุดครับ คือต้องจำว่ามีอะไรบ้างเป็นส่วนผสม แต่บางอย่าง อย่างที่ผมบอก

พอปลาย แล้วจะมีมวลสารไม่ครบ เช่นเนื้อหมากตากแห้ง ว่าน หรือ ผงแก้ว 3 ดวง ก้นบุหรี่ ไหมเจ็ดสี ปลายครก หรือในเนื้อขาว แถบมองไม่เห็นเลย

ยิ่งเนื้อหมากตากแห้ง กับก้นบุหรี่ เนี้ย จะเห็นน้อยมากครับ ต่อให้เป็นครกแรกๆๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันว่าต้องมีคือ เม็ดทรายเสกไม่ว่าเนื้อไหน ขนาดเม็ด

ทรายเสกจะใกล้เคียงกัน เพราะเอาทรายมาร่อนตะแกรงก่อน เข้าพิธีเสกทรายครับ ดังนั้นโอกาส ที่จะเจอ เล็กเป็นผงแป็ง หรือใหญ่แบบก้อนกวาด ไม่มี

หรอกครับ ส่วนใหญ่ที่เจอ จะเก้ครับ ส่วนขนาดทรายเสก คุณต้องเคยเห็นของจริงนะครับ แล้วจะดูออก (ถ้าจำได้) เม็ดทรายเสก นี้ เอาไปดูรุ่นอื่นที่มี

ส่วนผสมทรายเสกด้วย ก็ได้เช่น รุ่นฉลองมณทป ครับ ถ้ามวลสารครบก็ดูง่ายครับ

อีกอย่าง ที่พอดูได้ มัง เท่าที่สังเกต ข้างหลังองค์พระเนื่องจากชาวบ้าน ทำกันนะครับ การปาดเนื้อข้างหลังองค์พระจะไม่เรียบ เหมือนอย่างรุ่น 5 เมตตา

หรือ บางขุนพหรม จะมีรอยขยักปาดให้เห็น มากบ้างน้อยบ้าง ส่วนด้านข้างองค์พระ ถ้าไม่ได้เลี่ยมมาเดิม หรือแกะกรอบมานานแล้ว เนื้อพระจะหดตัว

แต่ไม่แตก ร้าว เนื้อจากมีส่วนผสมคือน้ำมันต์ตั้งอิ้ว อย่างเนื้อขาว หรือเนื้อที่มีส่วนผสมปูนขาวมาก จะมีการแตก ที่ผิว แต่ไม่แตกลึกลงไปมากครับ

แตกมากแตกน้อยขึ้นกับว่าปูนขาวมากหรือน้อย และไม่ตายตัวด้วยว่าต้องแตกตรงไหน เอาเป็นว่าแตกเป็นธรรมชาติ ละกัน ไม่เหมือนพระที่เร่งให้แห้ง

นั้นจะแตกมากด้านขอบข้าง แต่มุมด้านข้างดันไม่หดตตัว มันขัดกัน

สำหรับเนื้อเขียว นอกจากข้างต้นแล้ว ก็ต้องมาดูอีกนะครับ ว่าสีเขียว นั้นต้องเขียวจากเนื้อใน ไม่ใช่ เขียวนอก แต่ข้างไหนไม่เขียว และที่สำคัญต้องมี

เม็ดสีเขียวในเนื้อด้วย เพราะว่ามีช่วงหนึ่ง มีคนเอาเนื้อขาวไปย้อมสีเขียว อันนี้ต้องระวัง

และต้องที่ระวังอีกอย่าง มีพรรคพวกโทรมาคุยกัน แล้วผมเองก็เจอแล้วตามแผงพระ งานประกวด คือ ถ้าไม่แม่น จริง พยายามหลีก องค์ที่เป็นผลึก หรือ

ผด ขาว ขึ้นปิดผิวเนื้อองค์พระ ทำให้เรามองไม่เห็นเนื้อใน แล้วพวกจะเลี่ยมทองหรือเลี่ยมพลาสติก ใส่กรอบปิดหลังไว้ อันนี้ระวังนะครับ อันนี้ของเก้ทำ

ได้แล้ว และพยายามปิดไม่ให้เห็นเนื้อมวลสาร พยายามดูหลายๆๆจุดนะครับ อย่าดูพระจุดเดียว

เคยมีการถดเถียงกันเรื่องกลิ่น รุ่นนี้ยืนยันนะครับ มีกลิ่นถ้ามาอังที่จมูก แต่ไม่ใช่กลิ่นใหม่ตั้งอิ้วนะครับ (ต้องขอบคุณคุณปี๊ดปุ่นนนท์ด้วยที่เอาพระที่ทำ

ใหม่ให้ลป.นนท์ เมื่อประมาณกลางปี 49 มาให้ผมบูชา ทำให้ทราบว่ากลิ่นตั้งอิ้วเป็นไง) แต่ว่าจะเป็นกลิ่นเดียวกับ ฉลองมณทปเนื้อผง เนื้อไฟ

เบอร์หรือเนื้อน้ำตาลนะครับ เพราะส่วนผสม และตัวประสานใกล้เคียงกัน ทำห่างกันแค่ 2ปี สำหรับกลิ่นจะมากจะน้อย ผมสังเกตดูว่า จะเกิดจาก เลี่ยม

ตั้งแต่ยุดนั้น หรือเปล่า และแกะจากกรอบนานยัง

ถ้าใครถามผมนะ ว่าถ้าให้แนะนำบูชาพระหลวงพ่อสะองค์แบบขึ้นคอได้สบายใจ ไม่มีเสริม พุทธคุณเต็มเปี่ยม ผมตอบไม่เล็งเลเลย ว่าฟ้าผ่าเนื้อน้ำตาล

เข้มมวลสารครบ พิมพ์ลึกครับ แล้วทำไมไม่แนะนำ รุ่นอื่นละ ผมก็บอกตรงรุ่นนี้ หลวงพ่อ ตั้งใจทำนะคับ แกะพิมพ์เอง ควบคุมงานมวลสาร ควบคุมกด

บด แถบทุกขั้นตอน เอง ที่สำคัญท่านดังจากรุ่นนี้นะครับ

เด็กตลาดช่องแค

โดยคุณ เด็กตลาดช่องแค (449)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 12:35 น.] #101918 (3/15)
ประวัติ ฟ้าผ่า

รุ่นนี้หลวงพ่อตั้งใจทำมากครับ ทั้งหามวลสารเอง คุมการบด(ใช้ครกบดยาจีนนะครับ) และแกะพิมพ์เอง การผสม และกดพิมพ์ และคนช่องแคก็มา

ร่วมใจกัน บนศาลาหลังเก่า (ปัจจุบันกลายเป็นลานจอดรถ)พวกเขา ทำให้กับหลวงพ่อที่เขาศรัทธา เพื่อแจกให้เช่าบูชา ไม่มีพุทธพาณิชย์และไม่ได้ทำ

เพื่อใช้แจกงานส่วนตัว เพื่อเป็นที่ระลึกงานยกช่อฟ้ามณทป ปลายปี 12 ครับ (อธิฐานจิต เสาร์ 5) ด้วยเหตุที่ท่านแกะพิมพ์เองนะครับ แล้วท่านอายุ

มากแล้ว จึงแกะตื้นๆๆนะ รวมทั้งเป็นรุ่นที่หลวงพ่อดำริจะจัดสร้างมาหลายปีแล้ว ตอนแรกจะทำตอนงานฝั่งลูกนิมิตร แต่เนื่องจาก ความไม่พร้อมหลาย

อย่างจึงไม่ได้ทำช่วงนั้น

เนื้อมวลสารที่ผสม ก้นบุหรี่ ชานหมาก ผงวิเศษแก้ว 3 ดวง ว่าน108 อย่าง เนื้อหมากสดตากแห้ง กล้วยน้ำหว้า ปูนขาว น้ำมันตั้งอิ้ว ดอกไม้แห้ง

บูชาพระในกุฏิหลวงพ่อ ผงอิทธิเจ ทรายเสก น้ำมนต์

รุ่นนี้ จริง แล้ว สีพระดังเดิมพื้นฐาน ถ้ามวลสารครบ จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม รุ่นนี้มี 3 เนื้อ ตามที่ วงการแบ่งกันคือ แต่ถ้าผมแบ่งเองผมจะแบ่ง 4 เนื้อ
1) เนื้อเขียว ใส่สีที่ใส่ปูนขัดเขียวลงไป มีประมาณ 200 องค์ หรือ 1 แผ่นกระจก เวลาเอาไปตากแดด (จำนวนจริงๆๆไม่มีใครนับหรอกครับ)

ไว้แจกกรรมการ
2) เนื้อน้ำตาลเข้ม อันเป็นสีพื้นฐานดังเดิม ของรุ่นนี้ครับ
3) เนื้อน้ำตาลอ่อน ถึง เนื้อขาว เมื่อมวลสารใกล้หมด แต่จำนวนยังไม่ถึงที่ต้องการ จึงเติมปูนขาว ลงไปสีจึงออกสีน้ำตาลอ่อน ยิ่งใส่มากยิ่งออกสีขาว

เลย และเป็นเนื้อที่ปลอมง่ายสุดครับ

4) ส่วนแบบที่ 4(ผมแยกออกมาเองจากการค้นคว้าของผม)อันนี้วงการไม่ยอมรับ เพราะคนรู้น้อย คือเนื้อเหลือง องค์พระจะเหลือง ทั้งเนื้อครับ เนื้อ

ในด้วย ไม่ใช่เหลืองแค่ผิว หรือด้านใดด้านหนึ่ง ถ้าส่องดูจะเห็นผงขมิ้น ผมว่ารุ่นนี้ น่าจะน้อยสุด เพราะทำแจกแม่ครัว แค่ถาด ใบเดียวเวลาตากแดด

ตั้งแต่ผมเกิดมา ผมเห็นเนื้อขมิ้น แค่ 3 องค์เองครับ เนื้อเขียวยังเห็นมากกว่าอีก อันนี้อย่าสับสนกับเนื้ออื่น เช่นเนื้อขาวไปชุบขมิ้นนะครับ คนละแบบ

กัน ตรงนี้หลายคนเท่าที่ดูยังสับสน

ที่นี้ตอนผสม ตอนที่หลวงพ่ออยู่ก็ทำกันดีขยันกันทำ แต่พอหลวงพ่อไปพัก ก็ผสมกันมั่ว จนทำให้รุ่นนี้เนื้อหา หลากหลายมากครับ ท่านที่เคยทำพระผงจะ

เข้าใจว่าทำไมเนื้อหาหลากหลายได้ ผมเองยังเคยเห็นเนื้อขมิ้นเลย (สีเหลืองทั้งเนื้อใน)อันนี้ทำไม่กี่องค์ไว้แจกแม่ครัว แต่ยืนยันว่าเนื้อน้ำตาลเข้ม

เป็นพื้นฐานของรุ่นนี้ เนื้อเขียวเกิดจากการเอาสีใส่ปูนขัดสีเขียว มาผสม จำนวนจริงไม่มีใครทราบหรอกครับ แต่ตอนตากแดด ประมาณหนึ่ง แผ่นกระจก

พอมวสสารเริ่มหมด หลวงพ่อก็ให้เพิ่มสัดส่วนปูนขาวไป ทำให้สีเนื้อพระเป็นสีน้ำตาลอ่อน ถ้ายิ่งใส่มากก็เป็นเนื้อขาวเลย สำหรับเนื้อน้ำตาลเข้ม กับ

น้ำตาลอ่อน(เนื้อขาว)นั้น ไม่ทราบจำนวนครับแต่เข้าใจกันว่าหลักหมื่น ส่วนเรื่องยันต์ ข้างหลัง เขามาปั๊มตอนให้บูชากัน บางคน ก็เอามาปั๊มหลังจาก

นั้นหลายปี บางคนก็เอาหมึกจีนมาปั๊มเองเพราะอยากให้พระตัวเองแปลกว่าชาวบ้าน โดยยืมตรายันต์วัดปั๊มนะครับ ตอนนั้น ตราวัด ตรายันต์ ที่วัดไม่

ค่อยซีเรียดครับ รุ่นที่ปั๊มให้ตอนบูชาจะเป็น ยันต์เส้นบางครับ ถ้าหมึกจีนจะเป็นยันต์เส้นหนา อีกอย่างปั๊มสมัยนั้นจะใช้หมึกดำ ทั้งตราวัดและตรายันต์

แต่ถ้ามาปั๊มภายหลัง อาจเป็นปี 16-18 ก็ได้ จะหมึกน้ำเงิน

สำหรับเรื่องการเลี่ยม ที่เห็นหลายคนเข้าใจผิด (หรือว่าผมอ่านจับใจความผิด) คือ รุ่นนี้ไม่ได้เลี่ยมออกจากวัดนะครับ เพียงแต่ว่า มีคนมาเช่าจำนวน

มาก จึงมีช่างจากหน้าตลาดช่องแค (โทษทีครับผมจำชือ่ไม่ได้ แต่เป็นคนเดียวกับที่เลี่ยมรูปถ่ายหลังตะกรุดสามดอกปี 15-16 นะครับ) มาตั้ง

โต๊ะรับเลี่ยม ที่ศาลาเลย

ส่วนเรื่องที่คนโดนฟ้าผ่าแล้วไม่ตาย ที่ทำให้หลวงพ่อดัง จนลูกศิษย์กรุงเทพฯเข้าหามากครับ คือ น้องชายกรรมการวัด (ผมจำชื่อไม่ได้) คนหนึ่งได้

หยิบพระเนื้อน้ำตาลเข้มจากกะลามัง และได้ขอหลวงพ่อ หลวงพ่อพยักหน้า และได้เดินลงศาลา ออกไปจะรีบกลับบ้าน ตอนนั้นครึมฟ้าครึมฝน จึงโดน

ฟ้าผ่าหมดสติ หลวงพ่อให้นำตัวขึ้นมาบนศาลา แล้วเป่าน้ำมนต์ บอกว่าไม่เป็นอะไรแล้ว แล้วแกก็ฟื้น นอกจากเสื้อผ้าตรงจุดที่โดนฟ้าผ่าเป็นรอยไหม้

และตามเนื้อตัวเป็นรอยฟกช้ำ นอกนั้นแกไม่เป็นอะไรเลย

น่าสังเกตไหมครับ ทำไมรุ่นที่หลวงพ่อตั้งใจทำ และดังจากรุ่นนี้ กลับได้รับความนิยมน้อยกว่ารุ่นที่ลูกศิษย์ทำขึ้นเพื่อแจกงานส่วนตัว เป็นเรื่องเกี่ยวกับ

ผลประโยชน์ และการให้ข่าวกับสื่อครับ (อันนี้ต้องหลังไมค์ครับ ค้นคว้าไปจอตอบอกสาธารณะไม่ได้)

สำหรับรุ่นนี้ถ้าอยากเก็บ อยากให้เก็บเนื้อน้ำตาลเข้มมวลสารครบ ไม่จำเป็นต้องมียันต์ข้างหลังก็ได้ จะได้ประหยัดเงินได้ 1000 บาทนะครับ เพราะ

มียันต์จะแพงกว่าไม่มียันต์เฉลี่ย พัน บาทครับ รุ่นน้ำตาลเข้มมวลสารครบ ไม่สวย ก็ประมาณ 5-6 พัน ถ้าสวย ก็ 6-7 พัน ถ้ามียันต์ ก็บวกเพิ่ม

ไปครับ 1000 ถ้ามวลสารไม่ครบ ก็ลดหลั่นลงไป ถ้ามียันต์ก็บวกพัน ส่วนเนื้อขาว มีช่วงหนึ่ง มีการตุนไว้เยอะ ปล่อยข่าวว่า มีการลองยิงที่ หลัง

อตก. 3 ปืนด้าน ครับ ซึ่งก็สำเร็จ จากเนื้อขาวราคาครึ่งเนื้อน้ำตาล ตอนนี้ เท่าแล้ว และมีแนวโน้วทำท่าจะมากกว่าด้วย ถ้าไม่เจอบารมีองค์พ่อจตุคาม

ด้วยเหตุผลการปั่น ว่า สร้างน้อย แล้วทดลองยิงแล้ว แต่กับมวลสาร หรือเนื้อองค์พระจริง ที่โดนฟ้าผ่า สังเกตไม่มีคนพูดถึงเลยครับ วงการพระราคา

พระ จะไปตามทิศทางเซียนใหญ่นะครับ ก็เล่นอย่างตามกระแสละกันครับ เหตุผลสองคำครับ "ขายได้"

สำหรับการดูพระรุ่นนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่าเป็นรุ่นที่ทำได้หลากหลายเนื้อ ต้องดูหลายๆวิธี สำหรับผมเริ่มแรกสุดนะครับ ดูพิมพ์ก่อน ถ้าพิมพ์ผิดชัดเจนก็

ไม่ต้องหยิบแล้วนะครับ แต่ว่า เรื่องดูพิมพ์เนี้ยดูลำบาก เนื่องจากว่า พิมพ์ตื้น และไม่ค่อยชัด เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ปลอมพิมพ์ได้ง่าย ส่วนการดูผดตัว

หนอน บางองค์ก็ขึ้นบางองค์ก็ไม่ขึ้นนะครับ ดูลำบากดูแล้วก็ไม่ได้ข้อยุติอีก จะดูความแห้งขององค์พระที่หลายคนดู ในความคิดผมว่าก็ดูไม่ได้นะครับ

เพราะเนื่องจากรุ่นนี้บางองค์ (จำนวนมากด้วย) จะเลี่ยมแบบนี้ตั้งแต่เช่าจากวัดใหม่ๆ บางองค์ก็เลี่ยมหลังจากนั้น จึงทำให้การแห้งของเนื้อ ไม่ตรงกัน

ผมมีอยู่องค์ที่บ้าน เลี่ยมตั้งแต่เช่าจากวัด แกะพลาสติกออก แกล้งเอาไปแย้งที่ ฟิวเจอร์บางแค คนที่นั้นตีแก้ครับ แต่ผมจำชื่อร้านไม่ได้ แกบอกผิวเปียก

ดูใหม่ พระใหม่ ฟ้าผ่าเนื้อต้องแห้ง ดังนั้นรุ่นนี้ในความเห็นผมดูเนื้อมวลสารดีที่สุดครับ คือต้องจำว่ามีอะไรบ้างเป็นส่วนผสม แต่บางอย่าง อย่างที่ผมบอก

พอปลาย แล้วจะมีมวลสารไม่ครบ เช่นเนื้อหมากตากแห้ง ว่าน หรือ ผงแก้ว 3 ดวง ก้นบุหรี่ ไหมเจ็ดสี ปลายครก หรือในเนื้อขาว แถบมองไม่เห็นเลย

ยิ่งเนื้อหมากตากแห้ง กับก้นบุหรี่ เนี้ย จะเห็นน้อยมากครับ ต่อให้เป็นครกแรกๆๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันว่าต้องมีคือ เม็ดทรายเสกไม่ว่าเนื้อไหน ขนาดเม็ด

ทรายเสกจะใกล้เคียงกัน เพราะเอาทรายมาร่อนตะแกรงก่อน เข้าพิธีเสกทรายครับ ดังนั้นโอกาส ที่จะเจอ เล็กเป็นผงแป็ง หรือใหญ่แบบก้อนกวาด ไม่มี

หรอกครับ ส่วนใหญ่ที่เจอ จะเก้ครับ ส่วนขนาดทรายเสก คุณต้องเคยเห็นของจริงนะครับ แล้วจะดูออก (ถ้าจำได้) เม็ดทรายเสก นี้ เอาไปดูรุ่นอื่นที่มี

ส่วนผสมทรายเสกด้วย ก็ได้เช่น รุ่นฉลองมณทป ครับ ถ้ามวลสารครบก็ดูง่ายครับ

อีกอย่าง ที่พอดูได้ มัง เท่าที่สังเกต ข้างหลังองค์พระเนื่องจากชาวบ้าน ทำกันนะครับ การปาดเนื้อข้างหลังองค์พระจะไม่เรียบ เหมือนอย่างรุ่น 5 เมตตา

หรือ บางขุนพหรม จะมีรอยขยักปาดให้เห็น มากบ้างน้อยบ้าง ส่วนด้านข้างองค์พระ ถ้าไม่ได้เลี่ยมมาเดิม หรือแกะกรอบมานานแล้ว เนื้อพระจะหดตัว

แต่ไม่แตก ร้าว เนื้อจากมีส่วนผสมคือน้ำมันต์ตั้งอิ้ว อย่างเนื้อขาว หรือเนื้อที่มีส่วนผสมปูนขาวมาก จะมีการแตก ที่ผิว แต่ไม่แตกลึกลงไปมากครับ

แตกมากแตกน้อยขึ้นกับว่าปูนขาวมากหรือน้อย และไม่ตายตัวด้วยว่าต้องแตกตรงไหน เอาเป็นว่าแตกเป็นธรรมชาติ ละกัน ไม่เหมือนพระที่เร่งให้แห้ง

นั้นจะแตกมากด้านขอบข้าง แต่มุมด้านข้างดันไม่หดตตัว มันขัดกัน

สำหรับเนื้อเขียว นอกจากข้างต้นแล้ว ก็ต้องมาดูอีกนะครับ ว่าสีเขียว นั้นต้องเขียวจากเนื้อใน ไม่ใช่ เขียวนอก แต่ข้างไหนไม่เขียว และที่สำคัญต้องมี

เม็ดสีเขียวในเนื้อด้วย เพราะว่ามีช่วงหนึ่ง มีคนเอาเนื้อขาวไปย้อมสีเขียว อันนี้ต้องระวัง

และต้องที่ระวังอีกอย่าง มีพรรคพวกโทรมาคุยกัน แล้วผมเองก็เจอแล้วตามแผงพระ งานประกวด คือ ถ้าไม่แม่น จริง พยายามหลีก องค์ที่เป็นผลึก หรือ

ผด ขาว ขึ้นปิดผิวเนื้อองค์พระ ทำให้เรามองไม่เห็นเนื้อใน แล้วพวกจะเลี่ยมทองหรือเลี่ยมพลาสติก ใส่กรอบปิดหลังไว้ อันนี้ระวังนะครับ อันนี้ของเก้ทำ

ได้แล้ว และพยายามปิดไม่ให้เห็นเนื้อมวลสาร พยายามดูหลายๆๆจุดนะครับ อย่าดูพระจุดเดียว

เคยมีการถดเถียงกันเรื่องกลิ่น รุ่นนี้ยืนยันนะครับ มีกลิ่นถ้ามาอังที่จมูก แต่ไม่ใช่กลิ่นใหม่ตั้งอิ้วนะครับ (ต้องขอบคุณคุณปี๊ดปุ่นนนท์ด้วยที่เอาพระที่ทำ

ใหม่ให้ลป.นนท์ เมื่อประมาณกลางปี 49 มาให้ผมบูชา ทำให้ทราบว่ากลิ่นตั้งอิ้วเป็นไง) แต่ว่าจะเป็นกลิ่นเดียวกับ ฉลองมณทปเนื้อผง เนื้อไฟ

เบอร์หรือเนื้อน้ำตาลนะครับ เพราะส่วนผสม และตัวประสานใกล้เคียงกัน ทำห่างกันแค่ 2ปี สำหรับกลิ่นจะมากจะน้อย ผมสังเกตดูว่า จะเกิดจาก เลี่ยม

ตั้งแต่ยุดนั้น หรือเปล่า และแกะจากกรอบนานยัง

ถ้าใครถามผมนะ ว่าถ้าให้แนะนำบูชาพระหลวงพ่อสะองค์แบบขึ้นคอได้สบายใจ ไม่มีเสริม พุทธคุณเต็มเปี่ยม ผมตอบไม่เล็งเลเลย ว่าฟ้าผ่าเนื้อน้ำตาล

เข้มมวลสารครบ พิมพ์ลึกครับ แล้วทำไมไม่แนะนำ รุ่นอื่นละ ผมก็บอกตรงรุ่นนี้ หลวงพ่อ ตั้งใจทำนะคับ แกะพิมพ์เอง ควบคุมงานมวลสาร ควบคุมกด

บด แถบทุกขั้นตอน เอง ที่สำคัญท่านดังจากรุ่นนี้นะครับ

เด็กตลาดช่องแค

โดยคุณ เด็กตลาดช่องแค (449)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 12:36 น.] #101919 (4/15)
โทษทีครับเดี่ยวส่งใหม่ให้อ่านง่าย

โดยคุณ เด็กตลาดช่องแค (449)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 12:42 น.] #101920 (5/15)
ประวัติ ฟ้าผ่า

รุ่นนี้หลวงพ่อตั้งใจทำมากครับ ทั้งหามวลสารเอง คุมการบด(ใช้ครกบดยาจีนนะครับ) และแกะพิมพ์เอง การผสม และกดพิมพ์ และคนช่องแคก็มาร่วมใจกัน บนศาลาหลังเก่า (ปัจจุบันกลายเป็นลานจอดรถ)พวกเขา ทำให้กับหลวงพ่อที่เขาศรัทธา เพื่อแจกให้เช่าบูชา ไม่มีพุทธพาณิชย์และไม่ได้ทำเพื่อใช้แจกงานส่วนตัว เพื่อเป็นที่ระลึกงานยกช่อฟ้ามณทป ปลายปี 12 ครับ (อธิฐานจิต เสาร์ 5) ด้วยเหตุที่ท่านแกะพิมพ์เองนะครับ แล้วท่านอายุมากแล้ว จึงแกะตื้นๆๆนะ รวมทั้งเป็นรุ่นที่หลวงพ่อดำริจะจัดสร้างมาหลายปีแล้ว ตอนแรกจะทำตอนงานฝั่งลูกนิมิตร แต่เนื่องจาก ความไม่พร้อมหลายอย่างจึงไม่ได้ทำช่วงนั้น

เนื้อมวลสารที่ผสม ก้นบุหรี่ ชานหมาก ผงวิเศษแก้ว 3 ดวง ว่าน108 อย่าง เนื้อหมากสดตากแห้ง กล้วยน้ำหว้า ปูนขาว น้ำมันตั้งอิ้ว ดอกไม้แห้งบูชาพระในกุฏิหลวงพ่อ ผงอิทธิเจ ทรายเสก น้ำมนต์รุ่นนี้ จริง แล้ว สีพระดังเดิมพื้นฐาน ถ้ามวลสารครบ จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม รุ่นนี้มี 3 เนื้อ ตามที่ วงการแบ่งกันคือ แต่ถ้าผมแบ่งเองผมจะแบ่ง 4 เนื้อ

1) เนื้อเขียว ใส่สีที่ใส่ปูนขัดเขียวลงไป มีประมาณ 200 องค์ หรือ 1 แผ่นกระจก เวลาเอาไปตากแดด (จำนวนจริงๆๆไม่มีใครนับหรอกครับ) ไว้แจกกรรมการ
2) เนื้อน้ำตาลเข้ม อันเป็นสีพื้นฐานดังเดิม ของรุ่นนี้ครับ
3) เนื้อน้ำตาลอ่อน ถึง เนื้อขาว เมื่อมวลสารใกล้หมด แต่จำนวนยังไม่ถึงที่ต้องการ จึงเติมปูนขาว ลงไปสีจึงออกสีน้ำตาลอ่อน ยิ่งใส่มากยิ่งออกสีขาวเลย และเป็นเนื้อที่ปลอมง่ายสุดครับ

4) ส่วนแบบที่ 4(ผมแยกออกมาเองจากการค้นคว้าของผม)อันนี้วงการไม่ยอมรับ เพราะคนรู้น้อย คือเนื้อเหลือง องค์พระจะเหลือง ทั้งเนื้อครับ เนื้อในด้วย ไม่ใช่เหลืองแค่ผิว หรือด้านใดด้านหนึ่ง ถ้าส่องดูจะเห็นผงขมิ้น ผมว่ารุ่นนี้ น่าจะน้อยสุด เพราะทำแจกแม่ครัว แค่ถาด ใบเดียวเวลาตากแดด ตั้งแต่ผมเกิดมา ผมเห็นเนื้อขมิ้น แค่ 3 องค์เองครับ เนื้อเขียวยังเห็นมากกว่าอีก อันนี้อย่าสับสนกับเนื้ออื่น เช่นเนื้อขาวไปชุบขมิ้นนะครับ คนละแบบกัน ตรงนี้หลายคนเท่าที่ดูยังสับสน

ที่นี้ตอนผสม ตอนที่หลวงพ่ออยู่ก็ทำกันดีขยันกันทำ แต่พอหลวงพ่อไปพัก ก็ผสมกันมั่ว จนทำให้รุ่นนี้เนื้อหา หลากหลายมากครับ ท่านที่เคยทำพระผงจะเข้าใจว่าทำไมเนื้อหาหลากหลายได้ ผมเองยังเคยเห็นเนื้อขมิ้นเลย (สีเหลืองทั้งเนื้อใน)อันนี้ทำไม่กี่องค์ไว้แจกแม่ครัว แต่ยืนยันว่าเนื้อน้ำตาลเข้ม เป็นพื้นฐานของรุ่นนี้ เนื้อเขียวเกิดจากการเอาสีใส่ปูนขัดสีเขียว มาผสม จำนวนจริงไม่มีใครทราบหรอกครับ แต่ตอนตากแดด ประมาณหนึ่ง แผ่นกระจก พอมวสสารเริ่มหมด หลวงพ่อก็ให้เพิ่มสัดส่วนปูนขาวไป ทำให้สีเนื้อพระเป็นสีน้ำตาลอ่อน ถ้ายิ่งใส่มากก็เป็นเนื้อขาวเลย สำหรับเนื้อน้ำตาลเข้ม กับน้ำตาลอ่อน(เนื้อขาว)นั้น ไม่ทราบจำนวนครับแต่เข้าใจกันว่าหลักหมื่น ส่วนเรื่องยันต์ ข้างหลัง เขามาปั๊มตอนให้บูชากัน บางคน ก็เอามาปั๊มหลังจากนั้นหลายปี บางคนก็เอาหมึกจีนมาปั๊มเองเพราะอยากให้พระตัวเองแปลกว่าชาวบ้าน โดยยืมตรายันต์วัดปั๊มนะครับ ตอนนั้น ตราวัด ตรายันต์ ที่วัดไม่ค่อยซีเรียดครับ รุ่นที่ปั๊มให้ตอนบูชาจะเป็น ยันต์เส้นบางครับ ถ้าหมึกจีนจะเป็นยันต์เส้นหนา อีกอย่างปั๊มสมัยนั้นจะใช้หมึกดำ ทั้งตราวัดและตรายันต์ แต่ถ้ามาปั๊มภายหลัง อาจเป็นปี 16-18 ก็ได้ จะหมึกน้ำเงิน

สำหรับเรื่องการเลี่ยม ที่เห็นหลายคนเข้าใจผิด (หรือว่าผมอ่านจับใจความผิด) คือ รุ่นนี้ไม่ได้เลี่ยมออกจากวัดนะครับ เพียงแต่ว่า มีคนมาเช่าจำนวนมาก จึงมีช่างจากหน้าตลาดช่องแค (โทษทีครับผมจำชือ่ไม่ได้ แต่เป็นคนเดียวกับที่เลี่ยมรูปถ่ายหลังตะกรุดสามดอกปี 15-16 นะครับ) มาตั้งโต๊ะรับเลี่ยม ที่ศาลาเลย

ส่วนเรื่องที่คนโดนฟ้าผ่าแล้วไม่ตาย ที่ทำให้หลวงพ่อดัง จนลูกศิษย์กรุงเทพฯเข้าหามากครับ คือ น้องชายกรรมการวัด (ผมจำชื่อไม่ได้) คนหนึ่งได้หยิบพระเนื้อน้ำตาลเข้มจากกะลามัง และได้ขอหลวงพ่อ หลวงพ่อพยักหน้า และได้เดินลงศาลา ออกไปจะรีบกลับบ้าน ตอนนั้นครึมฟ้าครึมฝน จึงโดนฟ้าผ่าหมดสติ หลวงพ่อให้นำตัวขึ้นมาบนศาลา แล้วเป่าน้ำมนต์ บอกว่าไม่เป็นอะไรแล้ว แล้วแกก็ฟื้น นอกจากเสื้อผ้าตรงจุดที่โดนฟ้าผ่าเป็นรอยไหม้ และตามเนื้อตัวเป็นรอยฟกช้ำ นอกนั้นแกไม่เป็นอะไรเลย

น่าสังเกตไหมครับ ทำไมรุ่นที่หลวงพ่อตั้งใจทำ และดังจากรุ่นนี้ กลับได้รับความนิยมน้อยกว่ารุ่นที่ลูกศิษย์ทำขึ้นเพื่อแจกงานส่วนตัว เป็นเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ และการให้ข่าวกับสื่อครับ (อันนี้ต้องหลังไมค์ครับ ค้นคว้าไปจอตอบอกสาธารณะไม่ได้)สำหรับรุ่นนี้ถ้าอยากเก็บ อยากให้เก็บเนื้อน้ำตาลเข้มมวลสารครบ ไม่จำเป็นต้องมียันต์ข้างหลังก็ได้ จะได้ประหยัดเงินได้ 1000 บาทนะครับ เพราะมียันต์จะแพงกว่าไม่มียันต์เฉลี่ย พัน บาทครับ รุ่นน้ำตาลเข้มมวลสารครบ ไม่สวย ก็ประมาณ 5-6 พัน ถ้าสวย ก็ 6-7 พัน ถ้ามียันต์ ก็บวกเพิ่มไปครับ 1000 ถ้ามวลสารไม่ครบ ก็ลดหลั่นลงไป ถ้ามียันต์ก็บวกพัน ส่วนเนื้อขาว มีช่วงหนึ่ง มีการตุนไว้เยอะ ปล่อยข่าวว่า มีการลองยิงที่ หลังอตก. 3 ปืนด้าน ครับ ซึ่งก็สำเร็จ จากเนื้อขาวราคาครึ่งเนื้อน้ำตาล ตอนนี้ เท่าแล้ว และมีแนวโน้วทำท่าจะมากกว่าด้วย ถ้าไม่เจอบารมีองค์พ่อจตุคามด้วยเหตุผลการปั่น ว่า สร้างน้อย แล้วทดลองยิงแล้ว แต่กับมวลสาร หรือเนื้อองค์พระจริง ที่โดนฟ้าผ่า สังเกตไม่มีคนพูดถึงเลยครับ วงการพระราคาพระ จะไปตามทิศทางเซียนใหญ่นะครับ ก็เล่นอย่างตามกระแสละกันครับ เหตุผลสองคำครับ "ขายได้"

สำหรับการดูพระรุ่นนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่าเป็นรุ่นที่ทำได้หลากหลายเนื้อ ต้องดูหลายๆวิธี สำหรับผมเริ่มแรกสุดนะครับ ดูพิมพ์ก่อน ถ้าพิมพ์ผิดชัดเจนก็ไม่ต้องหยิบแล้วนะครับ แต่ว่า เรื่องดูพิมพ์เนี้ยดูลำบาก เนื่องจากว่า พิมพ์ตื้น และไม่ค่อยชัด เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ปลอมพิมพ์ได้ง่าย ส่วนการดูผดตัวหนอน บางองค์ก็ขึ้นบางองค์ก็ไม่ขึ้นนะครับ ดูลำบากดูแล้วก็ไม่ได้ข้อยุติอีก จะดูความแห้งขององค์พระที่หลายคนดู ในความคิดผมว่าก็ดูไม่ได้นะครับ เพราะเนื่องจากรุ่นนี้บางองค์ (จำนวนมากด้วย) จะเลี่ยมแบบนี้ตั้งแต่เช่าจากวัดใหม่ๆ บางองค์ก็เลี่ยมหลังจากนั้น จึงทำให้การแห้งของเนื้อ ไม่ตรงกันผมมีอยู่องค์ที่บ้าน เลี่ยมตั้งแต่เช่าจากวัด แกะพลาสติกออก แกล้งเอาไปแย้งที่ ฟิวเจอร์บางแค คนที่นั้นตีแก้ครับ แต่ผมจำชื่อร้านไม่ได้ แกบอกผิวเปียกดูใหม่ พระใหม่ ฟ้าผ่าเนื้อต้องแห้ง ดังนั้นรุ่นนี้ในความเห็นผมดูเนื้อมวลสารดีที่สุดครับ คือต้องจำว่ามีอะไรบ้างเป็นส่วนผสม แต่บางอย่าง อย่างที่ผมบอก พอปลาย แล้วจะมีมวลสารไม่ครบ เช่นเนื้อหมากตากแห้ง ว่าน หรือ ผงแก้ว 3 ดวง ก้นบุหรี่ ไหมเจ็ดสี ปลายครก หรือในเนื้อขาว แถบมองไม่เห็นเลย ยิ่งเนื้อหมากตากแห้ง กับก้นบุหรี่ เนี้ย จะเห็นน้อยมากครับ ต่อให้เป็นครกแรกๆๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันว่าต้องมีคือ เม็ดทรายเสกไม่ว่าเนื้อไหน ขนาดเม็ดทรายเสกจะใกล้เคียงกัน เพราะเอาทรายมาร่อนตะแกรงก่อน เข้าพิธีเสกทรายครับ ดังนั้นโอกาส ที่จะเจอ เล็กเป็นผงแป็ง หรือใหญ่แบบก้อนกวาด ไม่มีหรอกครับ ส่วนใหญ่ที่เจอ จะเก้ครับ ส่วนขนาดทรายเสก คุณต้องเคยเห็นของจริงนะครับ แล้วจะดูออก (ถ้าจำได้) เม็ดทรายเสก นี้ เอาไปดูรุ่นอื่นที่มี ส่วนผสมทรายเสกด้วย ก็ได้เช่น รุ่นฉลองมณทป ครับ ถ้ามวลสารครบก็ดูง่ายครับ

อีกอย่าง ที่พอดูได้ มัง เท่าที่สังเกต ข้างหลังองค์พระเนื่องจากชาวบ้าน ทำกันนะครับ การปาดเนื้อข้างหลังองค์พระจะไม่เรียบ เหมือนอย่างรุ่น 5 เมตตา หรือ บางขุนพหรม จะมีรอยขยักปาดให้เห็น มากบ้างน้อยบ้าง ส่วนด้านข้างองค์พระ ถ้าไม่ได้เลี่ยมมาเดิม หรือแกะกรอบมานานแล้ว เนื้อพระจะหดตัว แต่ไม่แตก ร้าว เนื้อจากมีส่วนผสมคือน้ำมันต์ตั้งอิ้ว อย่างเนื้อขาว หรือเนื้อที่มีส่วนผสมปูนขาวมาก จะมีการแตก ที่ผิว แต่ไม่แตกลึกลงไปมากครับ แตกมากแตกน้อยขึ้นกับว่าปูนขาวมากหรือน้อย และไม่ตายตัวด้วยว่าต้องแตกตรงไหน เอาเป็นว่าแตกเป็นธรรมชาติละกัน ไม่เหมือนพระที่เร่งให้แห้งนั้นจะแตกมากด้านขอบข้าง แต่มุมด้านข้างดันไม่หดตตัว มันขัดกัน

สำหรับเนื้อเขียว นอกจากข้างต้นแล้ว ก็ต้องมาดูอีกนะครับ ว่าสีเขียว นั้นต้องเขียวจากเนื้อใน ไม่ใช่ เขียวนอก แต่ข้างไหนไม่เขียว และที่สำคัญต้องมีเม็ดสีเขียวในเนื้อด้วย เพราะว่ามีช่วงหนึ่ง มีคนเอาเนื้อขาวไปย้อมสีเขียว อันนี้ต้องระวังและต้องที่ระวังอีกอย่าง มีพรรคพวกโทรมาคุยกัน แล้วผมเองก็เจอแล้วตามแผงพระ งานประกวด คือ ถ้าไม่แม่น จริง พยายามหลีก องค์ที่เป็นผลึก หรือผด ขาว ขึ้นปิดผิวเนื้อองค์พระ ทำให้เรามองไม่เห็นเนื้อใน แล้วพวกจะเลี่ยมทองหรือเลี่ยมพลาสติก ใส่กรอบปิดหลังไว้ อันนี้ระวังนะครับ อันนี้ของเก้ทำได้แล้ว และพยายามปิดไม่ให้เห็นเนื้อมวลสาร พยายามดูหลายๆๆจุดนะครับ อย่าดูพระจุดเดียว

เคยมีการถดเถียงกันเรื่องกลิ่น รุ่นนี้ยืนยันนะครับ มีกลิ่นถ้ามาอังที่จมูก แต่ไม่ใช่กลิ่นใหม่ตั้งอิ้วนะครับ (ต้องขอบคุณคุณปี๊ดปุ่นนนท์ด้วยที่เอาพระที่ทำใหม่ให้ลป.นนท์ เมื่อประมาณกลางปี 49 มาให้ผมบูชา ทำให้ทราบว่ากลิ่นตั้งอิ้วเป็นไง) แต่ว่าจะเป็นกลิ่นเดียวกับ ฉลองมณทปเนื้อผง เนื้อไฟเบอร์หรือเนื้อน้ำตาลนะครับ เพราะส่วนผสม และตัวประสานใกล้เคียงกัน ทำห่างกันแค่ 2ปี สำหรับกลิ่นจะมากจะน้อย ผมสังเกตดูว่า จะเกิดจาก เลี่ยมตั้งแต่ยุดนั้น หรือเปล่า และแกะจากกรอบนานยัง

ถ้าใครถามผมนะ ว่าถ้าให้แนะนำบูชาพระหลวงพ่อสะองค์แบบขึ้นคอได้สบายใจ ไม่มีเสริม พุทธคุณเต็มเปี่ยม ผมตอบไม่เล็งเลเลย ว่าฟ้าผ่าเนื้อน้ำตาลเข้มมวลสารครบ พิมพ์ลึกครับ แล้วทำไมไม่แนะนำ รุ่นอื่นละ ผมก็บอกตรงรุ่นนี้ หลวงพ่อ ตั้งใจทำนะคับ แกะพิมพ์เอง ควบคุมงานมวลสาร ควบคุมกด บด แถบทุกขั้นตอน เอง ที่สำคัญท่านดังจากรุ่นนี้นะครับ

เด็กตลาดช่องแค



คงดีขึ้นนะครับ

โดยคุณ goodboyth (18)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 13:34 น.] #101927 (6/15)
ขอบคุณครับผม ข้อคิด ข้อติติง หรือจุดที่ควรระวังที่พี่ได้แนะนำ ผมได้พยามยามรวบรวม ไว้เป็นไฟล์หนึ่ง ที่ผมใช่เป็นข้อพิจารณาด้วยครับ
ขอบพระคุณพี่นะครับ

โดยคุณ goodboyth (18)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 15:29 น.] #101951 (7/15)
โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบเนื้อผงครับ พอเห็นรุ่นฟ้าผ่าแล้วชอบมากๆ ผมตั้งใจจะเริ่มที่รุ่นนี้ก่อน แล้วค่อยไปรุ่นฉลองมณฑป จริงอย่างพี่ว่าครับ ต้องเห็นของจริง... พอจะมีให้น้อง ไว้เป็นองค์ครูบ้างไหมครับ อิอิ

โดยคุณ เด็กตลาดช่องแค (449)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 16:42 น.] #101961 (8/15)
ต้องขอโทษด้วยนะครับ เดี่ยวคนอื่นจะเข้าใจผมผิด คิดว่าผมทำเพื่อจะปล่อยพระ ผมไม่ได้มีเจตตนานะครับ เอาเป็นว่าถ้าคุณไปเจอที่ไหน จะให้ผมช่วยดู ผมยินดีดูให้ครับ จะmail มาหรือpost ถามในนี้ก้ได้

ส่วนmail ขอเป็นกรณีที่ มีคนตั้งประมูลในweb นี้ หรือ ไม่สะดวกจริงที่จะถามในที่สาธารณะ เท่านั้นนะครับ จะได้มีประโยชน์กับคนอื่นด้วยนะครับ เพราะตอนนี้คุณก็เป็นสมาชิกจีพระแล้ว แต่ว่าอย่าถามผมคนเดียวนะครับ ถามหลายคน หลายความเห็น หลายตา อย่าเชื่อผมมากผมผิดได้ครับ

email ผมนะ num_cat@yahoo.com

ต้องขอโทษด้วยครับ

โดยคุณ goodboyth (18)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 19:18 น.] #101990 (9/15)
ผมพูดเล่นหนะครับ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้พี่ไม่สบายใจครับ จริงๆแล้วก้อคงขอความคิดเห็นจากทุกท่านแหละครับ แต่อาจจะเนื่องจากที่พี่ มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย และให้แง่คิดดีครับ ผมเห็นด้วยครับที่จะให้กระทู้ต่างๆ เป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจทุกท่านครับ
ต้องขอโทษอีครั้งนะครับพี่

โดยคุณ พจน์ปากน้ำโพ (83)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 23:37 น.] #102069 (10/15)
ค่อยๆศึกษาครับ พระของท่านน่าบูชาทุกรุ่นครับ จริงๆแล้วพระของท่านดูไม่ยากหรอกครับยิ่งถ้าได้เห็นของจริงบ่อยๆ เริ่มจากรุ่นราคาเบาก่อนก็ได้ เช่น เหรียญ ส.ช. ก่อนก็ได้ มีอะไรก็สอบถามผู้รู้ได้ โดยเฉพาะคุณเด็กตลาดช่องแคนี่รู้ลึกและรู้จริงแถมไม่หวงความรู้ด้วย ส่วนรุ่นฟ้าผ่านั้นน่าบูชาครับพุทธคุณหายห่วงเจอกันบ่อย หาสีนำตาลที่มีมวลสารมากๆนั่นแหละครับดูง่ายดี มีอะไรพอช่วยเหลือได้ยินดีเสมอครับ

โดยคุณ conun (3.1K)  [ศ. 25 พ.ค. 2550 - 23:58 น.] #102080 (11/15)
เข้ามาศึกษาด้วยคนครับ ขอบคุณๆเด็กตลาดช่องแคครับ

โดยคุณ goodboyth (18)  [ส. 26 พ.ค. 2550 - 10:29 น.] #102101 (12/15)
ขอบคุณพี่ พจน์ปากน้ำโพครับ พี่ก้อเป็นอีกท่านที่ผมติดตาม คำติ ท้วงติง ต่างๆ และเก็บเป็นข้อมูลครับ ขอบคุณครับที่ให้ความรู้กับน้อง ที่เพิ่งเริ่มศึกษาครับ

โดยคุณ เด็กตลาดช่องแค (449)  [ส. 26 พ.ค. 2550 - 15:50 น.] #102148 (13/15)
เรื่องรุ่นฟ้าผ่า พอดีตกไปสอง อย่างมีคนโทรมาถาม นะครับ ขอเพิ่มเติม

1) เนื้อขมิ้น เนี้ย ทางวัดไม่ได้เอาออกบูชา หรือให้ลพ.แจกนะครับ ทางกรรมการวัด นำไปแจกแม่ครัวที่มาช่วยงานวัดครับ ดังนั้นรุ่นนี้ คนกรุงเทพฯ จะไม่ค่อยรู้จักครับ

2) มีคนถามผมว่า ฟ้าผ่า มีเส้นผมไหม เพราะของเขามี แต่ไม่มีหนังสือไหนบอกว่ามี ไปถามเซียนใหญ่ฯ และกรรมการงานประกวด บอกว่า ฟ้าผ่าไม่มีส่วนผสมของเส้นผม ถ้าผมตอบตามที่ผมมีข้อมูล และศึกษา ยืนยันว่า มีคนผสมเส้นผมในเนื้อฟ้าผ่า ตอนที่เขากดครับ เท่าที่ทราบจำนวน มี อยู่ 6 องค์ ผมเองมีอยู่ 1 องค์ครับ แล้วคนที่ถามผม ก็ยืนยันว่าเป็นเส้นผม ผมก็คิดว่าน่าจะใช้ (พอดีท่านนั้นไม่ใช่สมาชิกจีพระนะครับ) เพราะผมเคยคุยกับคนที่ได้กด และเป็นกรรมการช่วงนั้น เขาบอกว่าเขาแอบใส่ ไว้ 6 องค์ ส่ว่นเหตุผลไว้หลังไมด์ดีกว่านะครับ

โดยคุณ sarim (1.1K)  [จ. 28 พ.ค. 2550 - 18:39 น.] #102590 (14/15)
พี่ครับขออนุญาตครับเรียนถามหน่อยครับ ไม่ทราบว่าหลวงปู่ละมุด(ครูละมุดที่สอนโขน)ยังอยู่มั้ยครับ ถ้าอยู่อยากทราบว่าหลวงปู่ท่านอยู่วัดไหนครับเวลานี้ ผมออกมาจากนครสวรรค์นานล่ะครับ จะไปได้กราบท่านสักหน่อย และทราบข่าวอีกว่าผู้ใหญ่ผิว(หลวงน้าผิว)นั้นมาเสียชีวิตตอนมางานศพหลวงพ่อหลายปีแล้ว ไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่าครับ นับถือหลวงพ่อมากครับเคยคลุกคลีอยู่กับลูกศิษย์ของหลวงพ่อที่อยู่ในคณะโขนของหลวงพ่อครับ ขอบคุณครับพ้ม

โดยคุณ เด็กตลาดช่องแค (449)  [อ. 29 พ.ค. 2550 - 09:19 น.] #102828 (15/15)
ลป.ละมุด นั้นผมก็ไม่ได้ข่าวมานานแล้วนะครับ ไม่ทราบเหมือนกัน
ส่ว่นตาผิว เนี้ย คือ เสียชีวิตหายปีแล้ว นะครับ ล้มหัวฟาดบันไดนะครับ ถ้าจำไม่ผิดตั้งแต่ปี 20ปลายได้มังครับ

แต่ถ้าเป็นลูกศิษย์ในคณะโขนนั้น ผมไม่รู้จักใครเลยนะครับ เพราะนั้นจะเป็นเด็กวัดกับเด็กบ่อดินขาว เด็กคลองแปด ส่วนผมเด็กตลาดนะครับ ต้องขอโทษด้วยครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM