(0)
เหรียญปั๊มนั่งเต็มองค์ (เนื้อทองแดงรมดำ) พ่อท่านหลบ วัดราษฎร์เจริญ เกาะพงัน สุราษฎร์ธานี








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญปั๊มนั่งเต็มองค์ (เนื้อทองแดงรมดำ) พ่อท่านหลบ วัดราษฎร์เจริญ เกาะพงัน สุราษฎร์ธานี
รายละเอียดเหรียญปั๊มนั่งเต็มองค์ (เนื้อทองแดงรมดำ) หลวงพ่อหลบ วัดราษฎร์เจริญ
[ รายละเอียด ] เกาะพงันเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นหนึ่งในจำนวนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างเช่นงานฟูลมูน ปาร์ตี้ ที่เป็นความใฝ่ฝันของบรรดานักท่องเที่ยวทุกมุมโลกแล้ว เกาะพงันยังนับว่ามีธรรมชาติอันสวยสดงดงามหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ธรรมชาติยังคงอยู่เริ่มต้นที่มีพระนักอนุรักษ์อยู่ องค์หนึ่งของเกาะพงัน และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านบนเกาะโดยเป็นผู้ริเริ่ม ห้ามชาวบ้านไม่ให้ ตัดไม่ทำลายป่า และยังครอบคลุมไปยังเกาะต่างๆอีกด้วย ท่านมีชื่อว่าหลวงพ่อหลบ พระครูสุภัทรธรรมาภิรม ( หลวงพ่อหลบ ) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์เจริญ (อดีตเจ้าคณะอำเภอเกาะพงัน) หลวงพ่อหลบ เกิดบนเกาะพงัน วันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2474 เป็นลูกคนโตของ พ่อจันทร์ แม่ชื่น บุญญา มีน้อง 4 คน คนที่ 1 พระครูเหมคุณาพร (มหาเลื่อม สุวรรณโณ) ปัจจุบันเป็นเจ้าคณะ 5 คนที่ 2 นายแนบ บุญญา คนที่ 3 นางนอบ พิริยะสถิต (ใช้นามสกุลของสามี) คนที่ 4 นางอำพรรณ ศรีทองกุล (ใช้นามสกุลของสามี) หลวงพ่อหลบ มีความอัศจรรย์ตั้งแต่แรกเกิด และเป็นที่มาของชื่อหลบ ซึ่งเรื่องมีอยู่ว่า ในวันที่ท่านเกิดนั้น ท่านก็ร้องออกมาเหมือนกับเด็กที่เพิ่งเกิดทั่วๆไป แต่ท่านร้องออกมาได้เพียงไม่กี่ครั้ง ท่านก็ได้สิ้นลมหายใจ ทางฝ่ายพ่อและแม่ของท่านเสียใจมากเพราะเป็นลูกคนแรก จึงได้นำท่านห่อผ้าทำพิธีทางศาสนา เพื่อจะพาไปฝังที่ป่าช้า ในขณะที่ขุดหลุมเสร็จ เตรียมที่จะฝังท่าน ท่านก็ได้สติร้องขึ้นมาอีกครั้ง จึงเป็นที่มาของชื่อ ( คำว่าหลบเป็นภาษาใต้ แปลว่า กลับมาอีกครั้ง) เพราะคนในสมัยนั้นคิดว่าท่านเพียงแค่สลบไปเท่านั้น โดยอาจารย์ท่านเจ้าคุณใหญ่จังหวัด พระธรรมรัตนกวีเป็นผู้ให้ใช้ชื่อนี้ ต่อมาถึงวัยศึกษาท่านได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวัดมธุรวราราม ตั้งแต่ ป.1 ถึง ป.4 ก็ได้ออกจากการเรียน เนื่องจากในสมัยนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่สองขึ้น ท่านจึงไม่สามารถที่จะเล่าเรียนต่อได้ ท่านก็ได้อยู่ช่วยเหลือที่บ้านทำงานจนถึงวัยเกณฑ์ทหาร เมื่อท่านไม่ถูกคัดเลือกให้เป็นทหาร ก็เลยอุปสมบทที่วัดมธุรวราราม เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2495 มีฉายาว่า ธรรมวโร โดยมีพระครูวิบูลทีปรัต ( อาจารย์พร้อม ธรรมทินโน ) เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระใบฎีกา พร้อม กัลยาโณ วัดสมัยคงคา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสมุห์เวียน ศีระสาโร วัดมธุรวราราม เป็นพระอนุกรรมวาจาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้วท่านก็ได้ เริ่มศึกษาเล่าเรียนนักธรรมตรี , นักธรรมโท , นักธรรมเอก ด้วยความจำดีและมีความตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ทำให้ท่านสามารถสอบผ่านสามปีติดต่อกัน หลังจากนั้นท่านจึงเดินทางไปศึกษาเปรียญต่อที่วัดบางน้ำจืด ตำบลเขาถ่านอำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยความจำและเข้าใจในสิ่งที่ร่ำเรียนท่านก็สามารถสอบได้เปรียญสามประโยคใน พ.ศ.2500 ในช่วงเวลาต่อมาทางวัดได้เกิดวิกฤตขึ้นเนื่องจากในช่วงนั้นมีโจรผู้ร้าย อันธพาลมากมา ยในเขตอำเภอท่าฉาง ได้ไล่พระไล่เณรออกจากวัดทำให้เกิดความวุ่นวาย ด้านหลวงพ่อหลบเมื่อได้เปรียญสามประโยคก็มีความเข้าใจในภาษาบาลี จึงได้เดินทางไปศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ จำอยู่ที่วัดทองธรรมชาติ ในปี พ.ศ.2502 ด้วยความใฝ่รู้และเสาะแสวงหาของหลวงพ่อ จึงทำให้ท่านได้พบประกับผู้ที่มีความรู้มากมาย และได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ท่านได้ศึกษาหาความรู้จนถึงปี พ.ศ.2509 ก็ได้ถูกนิมนต์มาอยู่จำพรรษาที่วัดราษฎร์เจริญ และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี พ.ศ.2510 เมื่อท่านได้กลับมายังบ้านเกิด ท่านก็ได้แวะเวียนไปหาหลวงพ่อวัฒน์ วัดศรีทวีป ซึ่งมีศักดิ์เป็นตา หลวงพ่อวัฒน์ท่านนี้นับว่าเป็นพระวิปัสสนากรรมฐานของเกาะสมุย มีความรู้ในภูมิธรรมอย่างลึกซึ้ง เชี่ยวชาญวิทยาคมและไสยศาสตร์หลายแขนงแต่ชอบเก็บตัวเงียบ ๆ อย่างสมถะมาโดยตลอด หลวงพ่อหลบจึงได้ศึกษาตำราวิชาต่างๆของหลวงพ่อวัฒน์ ด้วยความจำที่ดีชอบศึกษาและมีความรู้แตกฉานในภาษาบาลีทำให้หลวงพ่อหลบรู้ ทุกอย่างในต ำราเล่มนั้น ต่อมาหลวงพ่อวัฒน์ซึ่งมีศักดิ์เป็นตา ได้ครอบครูให้ ใน ช่วงเวลานั้นนอกจากจะศึกษาเล่าเรียนแล้ว หลวงพ่อหลบก็เริ่มออกธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขาบนเกาะเป็นเวลานานพอสมควร หลังจากกลับจากธุดงค์ท่านก็ได้ประกาศไม่ให้ชาวบ้านตัดต้นไม้ทำลายป่า ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจเป็นอย่างมาก จนชาวบ้านบางคนหาว่าท่านเป็นพระบ้า และไม่ยอมใส่บาตรให้ แต่ด้วยความรู้ทางธรรมและความมุ่งมั่นของหลวงพ่อหลบที่มีความแน่วแน่และ ปฏิบัติตนดำร งอยู่ในศีลในธรรมมีเมตตาจิตตามแบบอย่างของพระพุทธศาสนาไม่ มีด่างพร้อย คอยแนะนำสอนสั่งชาวบ้านตลอดมา ในเวลาต่อมาชาวบ้านเริ่มเข้าใจและเริ่มมีความศรัทธาต่อหลวงพ่อหลบ ท่านจึงดำเนินการต่อโดยการมอบผืนป่าให้เป็นอุทยานรวมพื้นที่หลายหมื่นไร่ ในปี พ.ศ.2511ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบล ท่านก็มีการพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ นอกจากจะอนุรักษ์ผืนป่าและพัฒนาภายในวัดราษฎร์เจริญแล้ว ท่านยังบูรณะวัดพุทธเจดิยาราม(วัดเขาน้อย) ซึ่งเดิมเป็นวัดที่ พระครูวิบูลย์ธรรมสาร (หลวงพ่อเพชร วชิโร) วัดอัมพวัน เป็นผู้สร้าง ( หลวงพ่อเพชร วชิโร เป็นเกจิอาจารย์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และโด่งดังมาก) ต่อมาได้ถูกปล่อยให้รกร้าง หลวงพ่อหลบจึงได้จัดหาพื้นที่เพิ่มเติมให้กับวัดเขาน้อยอีก 6 ไร่ หลังจากบูรณะสำเร็จแล้ว ได้ให้พระจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาน้อยอีก 4 รูป ท่านยังมีเมตตาจิตยกที่ส่วนตัวให้กับวัดราษฎร์เจริญ สร้างเป็นเมรุและศาลาพักศพเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และยังยกที่ริมทางสร้างเป็นส่วนป่าไว้ให้ชาวบ้านได้พักผ่อนอีกด้วย ในขณะนั้นนอกจากจะอนุรักษ์ธรรมชาติและพัฒนาแล้ว ท่านยังเป็นผู้ที่ส่งเสริมการศึกษาในด้านความรู้ต่างๆให้ทุนการศึกษาแก่เด็ก ที่ด้อยโ อกาสเสมอมา บรรดาชาวบ้านที่เคยไม่พอใจท่านก็ได้กลับกลายมาเป็นลูกศิษย์ ซึ่งมีความเคารพศรัทธาท่านเป็นอย่างมาก และคอยช่วยเหลืองานท่านตลอด หลวงพ่อหลบนับได้ว่าเป็นพระที่ปฏิบัติอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งคัดและมี ความศักดิ์ส ิทธิ์เป็นอย่างมาก ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทุกเกาะ มีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั่วทุกสารทิศ ในด้านความศักดิ์สิทธิ์ของท่านนั้น อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่2 คุณลุงวิรุฬห์ ทองหยัด ได้ เล่าให้ฟังว่าผมรู้จักกับพ่อท่านหลบมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ท่านแก่กว่าผม 3 ปี เป็นเพื่อนเที่ยวเล่นกันมากับผมตั้งแต่เด็กๆ ได้บวชก่อนผม 3 ปี ในช่วงที่ท่านบวช ท่านได้สอบนักธรรมชั้นเอกเมื่อ ปี พ.ศ.2498 และปีนั้นผมก็สอบนักธรรมชั้นตรีพร้อมท่าน เมื่อท่านสอบผ่านก็เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ ในสมัยนั้นหลวงพ่อพร้อมยังอยู่ ซึ่งท่านและผมต่างก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อพร้อมทั้งคู่ ท่านได้เรียนวิชากรรมฐานกับหลวงพ่อพร้อม (หลวงพ่อพร้อมนั้นท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านมากนอกจากจะเก่งในด้าน กรรมฐานแล้ วท่านยังสามารถบิดตะกั่วที่เคียวอยู่ในกระทะได้) สำหรับพ่อท่านหลบนั้นท่านมีความสามารถมากและเก่งในทุกๆด้านเป็นคนหนักแน่นเด็ดขาดตั้ งแต่ เด็ก ทำอะไรก็ทำจริง ชาวบ้านจึงเคารพนับถือท่านมากหลังจากที่ผมลาสิขาออกมาแล้ว ก็ไม่ได้คลุกคลีกับท่านมากนัก แต่ท่านก็ทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด โดยเฉพาะงานด้านการพัฒนา ท่านได้พัฒนาและอนุรักษ์สิ่งต่างๆ ไว้มากมาย อาทิการสร้างอุทยานและยกให้เป็นของส่วนรวม การสั่งห้ามไม่ให้ชาวบ้านตัดไม้ทำลายป่า แต่มาในช่วงหลังสุขภาพของท่านไม่แข็งแรง สังขารก็ไม่เอื้ออำนวย จึงได้เพียงคอยดูแลและปลูกฝังให้ชาวบ้านลูกหลานรักในธรรมชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกธารเสด็จ พี่ชัยชนะ วิชัยดิษฐ ผม เป็นคนเกาะพงันรู้จักกับท่านมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว คนรุ่นราวคราวเดียวกับพี่ก็รู้จักท่านกันทุกคน หลังจากที่พ่อท่านพร้อมดับ อาจารย์หลบซึ่งเป็นศิษย์พ่อท่านพร้อมก็รับช่วงการดูแลวัดต่อ ในขณะนั้นอาจารย์หลบซึ่งเป็นหนึ่งในศิษย์พ่อท่านพร้อม ได้รับการศึกษาโดเด่นกว่าพระองค์อื่นๆ และในขณะที่พ่อท่านพร้อมมรณภาพ ท่านอาจารย์หลบได้จำพรรษาศึกษาอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ถูกเรียกตัวมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสที่วัดราษฎร์เจริญแห่งนี้ ในช่วงปี 2532 ผมได้รับคำสั่งจากกรมป่าไม้ให้สำรวจพื้นที่ป่าบนเกาะพงันเพื่อขึ้นทะเบียน อุทยาน ผมก็สำรวจหาจุดเด่น และจุดที่น่าอนุรักษ์ไว้ ก็ถามไปถามมาปรากฏว่าทรัพยากรป่าไม้ที่ยังคงหลงเหลืออยู่นั้น มีพ่อท่านหลบเป็นผู้บุกเบิกการอนุรักษ์ และท่านก็มอบให้เป็นการดูแลของกรมป่าไม้เมื่อปี พ.ศ.2514 เนื่องจากท่านเห็นว่าการอนุรักษ์เป็นรูปเป็นร่างดีแล้ว และนี่ก็ไม่ได้เป็นกิจของสงฆ์ จากนั้นพื้นที่ตรงนี้ก็ถูกตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ ท่านเป็นพระนักอนุรักษ์ ชอบช่วยเหลือสังคม ส่วนด้านความศักดิ์สิทธิ์นั้น ตัวผมเองไม่ได้เข้าไปสัมผัสมากนัก แต่เท่าที่ได้ยินมาว่าเหรียญของท่านหลายรุ่นนั้นดัง ถ้าเป็นด้านความศรัทธานั้น ผมบอกได้เลยว่าท่านเป็นพระที่ชาวบ้านสามารถกราบไหว้ได้โดยสนิทใจ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคารพท่าน ท่านเป็นคนมองการไกล ใจเมตตา ใครไปหาให้ช่วยเหลือท่านก็จะช่วย ในเรื่องการปฏิบัติตนนั้นท่านก็เป็นผู้ที่เคร่งครัดในศีลมาก ปฏิบัติตนตามกรอบของพระพุทธศาสนา จนปัจจุบันนี้ท่านเปรียบเสมือนเสาหลักของคนเกาะพงัน แต่ในตอนแรกที่ท่านมาอยู่จำวัดที่วัดราษฎร์เจริญแห่งนี้ ชาวบ้านไม่ใส่บาตรท่าน เนื่องจากท่านไปห้ามไม่ให้ชาวบ้านตัดไม้ทำลายป่า แต่ท่านกลับบอกกับชาวบ้านว่าไม่ใส่บาตรไม่เป็นไร ขอแค่ไม่ตัดไม้ทำลายป่าก็พอแล้ว ( ตัดเราได้ไม่เป็นไร แต่อย่าตัดต้นไม้ทำลายป่า) ชาวบ้านต่างก็หาว่าท่านเป็นพระบ้า จะอนุรักษ์ทำไมกับทรัพยากรที่มีเยอะแยะทั่วเกาะ แต่ท่านเป็นคนมองการไกล รู้ว่าต่อไปป่าต้องถูกทำลายลงแน่ เมื่อเปรียบเทียบผืนป่าของเกาะสมุยกับเกาะพงัน เกาะสมุยซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าเกาะพงัน 3 เท่า แต่กลับไม่มีพื้นที่อนุรักษ์เลย ในช่วงที่หน้าน้ำขาดทั้งเกาะสมุยและเกาะเต่ายังต้องมาเอาน้ำที่เกาะพงัน นี้คือสิ่งที่อาจารย์หลบทำไว้ให้เพื่อลูกหลานชาวเกาะพงันโดยแท้ พี่ปราโมทย์ พิริยสถิต และคุณยายซุ่นยี ศรีทองกุล ตัวผมเองก็รู้จักกับอาจารย์หลบมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะผมเป็นคนที่นี่ และอาจารย์ก็เป็นคนที่นี่เช่นกัน จึงรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี หลังจากที่พ่อท่านพร้อมเสีย พ่อท่านพริ้งก็ขึ้นรักษาการณ์แทน หลังจากนั้นก็มีคนไปนิมนต์พ่อท่านหลบขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งตอนนั้นท่านอยู่ที่กรุงเทพฯ เมื่อท่านกลับมาจำวัดที่วัดราษฎร์เจริญ ก็ได้พัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรื่องยิ่งขึ้น และอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ให้คงอยู่ ซึ่งในช่วงแรกๆ ที่ท่านเข้ามาอยู่ ท่านก็ห้ามไม่ให้ชาวบ้านตัดไม้ทำลายป่า ชาวบ้านบางส่วนก็ไม่พอใจมาก แต่พอมาในช่วงหลังทุกคนต่างเห็นว่าการอนุรักษ์ซึ้งทรัพยากรธรรมชาตินั้น สมควรยิ่ง นอกจากนี้ท่านก็ยังพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม ศึกษา และได้เป็นผลประโยชน์ที่บังเกิดแก่ชาวบ้าน และเมื่อวัดมีกิจอันใดที่ต้องการให้ชาวบ้านช่วยเหลือ ชาวบ้านก็ร่วมกันช่วยเหลืออย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ด้านความศักดิ์สิทธ์นั้นพ่อท่านหลบศักดิ์สิทธ์มาก ท่านเป็นพระที่มีวาจาสิทธิ์ พูดอะไรก็มักเป็นไปตามนั้น แล้วท่านยังหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ด้วย นอกจากนี้แล้วเหรียญของท่านหรือแม้แต่สายสิงที่ท่านให้มานั้นไม่ว่าจะเป็น เรื่องอะไร ก็ตาม เช่นกางปลาติดคอเพียงแค่เอามาแก่วงในน้ำแล้วอธิฐานจิตถึงท่านก็จะหายชาวบ้านที่นี้ต่ างก็ รู้กันดี และแม้ว่าในช่วงหลังๆ มานี้ ท่านจะเดินไม่สะดวก ต้องใช้รถ แต่ท่านก็ยังออกบิณฑบาต ท่านมีความมุ่งมั่น ทำตามกิจของสงฆ์ทุกประการ คือการออกโปรดสัตย์ตามรอยพระพุทธเจ้า ท่านจะอยู่ในศีลอย่างเคร่งครัด ในตอนนี้ใครๆ ก็ยอมรับว่าท่านเป็นพระอริยะสงฆ์แห่งเกาะพงัน ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักโดยทั่วแม้ชาวต่างชาติก็ยังเคารพศรัทธาท่าน ซึ่งในปัจจุบันจะหาพระที่เพียบพร้อมได้ขนาดนี้นับว่ายากเต็มที ท่านได้สร้างถาวรวัตถุไว้มากมาย และก็ไม่เคยไปเรี่ยไรจากชาวบ้านเลย แต่เป็นชาวบ้านเองที่ร่วมกันช่วยเหลือด้วยความศรัทธาพ่อท่านหลบ
ราคาเปิดประมูล249 บาท
ราคาปัจจุบัน259 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 17 พ.ย. 2553 - 19:44:49 น.
วันปิดประมูล - 19 พ.ย. 2553 - 17:27:53 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลlengsakul (3.2K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     259 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    silakriwas (4.6K)(1)

 

Copyright ©G-PRA.COM