ชื่อพระเครื่อง |
สีผึ้งหลักเมือง หรือสีผึ้งจตุคราม สีผึ้งสุวรรณภูมิ ปี30 |
รายละเอียด |
สีผึ้งหลักเมือง หรือสีผึ้งจตุคราม สีผึ้งสุวรรณภูมิ ปี30
วัตถุมงคลที่หายากของสายจตุคามรามเทพ(สีผึ้งหลักเมืองนครศรีธรรมราช) สีผึ้งหลักเมือง ปี30(รุ่นแรก)หรือเรียกว่าสีผึ้งศรีวิชัย เป็นสี้ผึ้งทำด้วยมวลสารและกรรมวิธีเฉพาะของศรีวิชัย ใช้เป็นวัตถุมงคลสีริมฝีปากก่อนออกไปเจรจาความใด ๆ ประวัติเกี่ยวกับสีผึ้งหลักเมือง ท่านสัมพันธ์ ทองสมัคร(สส.จังหวัดนครศรีธรรมราช)ได้บันทึกเหตุการณ์ วันนั้นไว้มีความตอนหนึ่งดังนี้ พิธีการเจิมยอดชัยหลักเมือง พิธีกรรมสำคัญยิ่งและถือเป็นมหามงคลสูงสุด คือการเจิมยอดชัยหลักเมืองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายพิศาล มูลศาสตร์สาทร) นำคณะอันประกอบด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นายอำนวย ไทยานนท์) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายสัมพันธ์ ทองสมัคร) ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (นายกำจร สถิรกุล) เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นายอนันต์ อนันตกูล) วุฒิสมาชิก (นายศิริชัย บุลกุล) พร้อมด้วยข้าราชการและประชาชนผู้ร่วมจัดสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท นำยอดชัยหลักเมืองทรงเจิม ในวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ.2530 ยอดชัยหลักเมืองที่ทรงเจิมในวันนั้น นอกจากของจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ยังมีหลักเมืองจังหวัดชัยนาทและจังหวัดศรีสะเกษอีกด้วย นายสัมพันธ์ ทองสมัครได้บันทึกเหตุการณ์ วันนั้นไว้มีความตอนหนึ่งดังนี้ ......คราวนั้นคณะกรรมการสร้างหลักเมืองได้นำวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นตามแบบแผนโบราณจำนวน 13 ชิ้น พร้อมด้วยภาพถ่ายหลักเมืองน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายในครั้งนั้นด้วย ผมเองเป็นกังวลใจมาก เพราะว่า ผู้ซึ่งเตรียมไว้ว่าต้องทำหน้าที่กราบบังคมทูลคือท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชเจ้าพิธี โดยตรง แต่ก่อนหน้าจะถึงกำหนดเข้าเฝ้าฯท่านขุนพันธ์ฯได้ล้มป่วย ทางจังหวัดโดยท่านรองฯอำนวย ไทยานนท์ ได้ขอผมไปทำหน้าที่แทน ผมกังวลเพราะไม่ทราบเรื่องวัตถุมงคล 13 ชิ้นว่าเป็นอย่างไร ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้อ่านคำกราบบังคมทูล และได้กล่าวถึงมงคลที่ได้สร้างพิธีกรรมสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราชด้วย เมื่อทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมยอดเสาหลักเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทรงมีรับสั่งให้ตามเสด็จฯ ไปยังบริเวณ ที่วางวัตถุมงคลที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ ทรงเริ่มทอดพระเนตรตั้งแต่ชิ้นแรก เป็นภาพถ่ายเสาหลักเมืองนครฯ ทรงมีพระตาชกระแสรับสั่งว่า หลักเมืองกรุงเทพฯ คนนครฯ มาร่วมช่วยสร้างเหมือนกัน เพราะเขาเข้าใจเรื่องการสร้างหลักเมือง มีเทวดาเหาะรอบๆ ยอดเสา หลักเมือง อยู่ 8 องค์ แต่หลักเมืองนครฯ ที่สร้างขึ้นครั้งนี้เทวดาไม่ได้เหาะ แต่แกะสลักไว้ที่ยอดเสาหลักเมือง ให้เฝ้าทิศทั้งแปด จากนั้นได้ทอดพระเนตรวัตถุมงคลทุกชิ้นพร้อมกับทรงอธิบายให้ผมฟังถึงความเป็นมา และการใช้สอยเกี่ยวกับของแต่ละชิ้นได้อย่างลึกซึ้ง ประหนึ่งทรงอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ ทรงพระปรีชาญาณยิ่งนัก จนกระทั่งถึงคงชิ้นที่ 13 เป็นขี้ผึ้งที่บรรจุในภาชนะรูปคล้ายผอบทำด้วยถมท่อง ขนาดไม่โตนัก ผมเองประหวั่นว่าจะมีรับสั่งถามเกรงว่าจะกราบบังคมทูลไม่ถูก เพราะไม่ทราบคำราชาศัพท์ของคำว่า ขี้ผึ้ง แล้วก็ทรงมีพระกระแสรับสั่งถาม พร้อมทรงชี้ไปที่ผอบว่า นี่อะไร ผมกราบทูลว่า เป็นถมทองศิลปะดั้งเดิมของชาวนครศรีธรรมราช ทรงมีพระราชกระแสว่า ถมทองของเมืองนครฯ นี่เรารู้จักเราใช้อยู่ข้างในเป็นอะไร ผมกราบบังคมทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าไม่ทราบคำราชาศัพท์แต่ชาวบ้านเรียกว่า ขี้ผึ้ง พระพุทธเจ้าข้า ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า สีผึ้ง สมัยโบราณคนเมืองนครหรือชาวศรีวิชัยเมื่อจะไปเจรจาเรื่องสำคัญกับใครจะใช้สีผึ้งสีริมฝีปากแล้วไปเจรจา นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ได้เป็นที่ประจักษ์ว่า ทรงมีพระปรีชาญาณรอบรู้จริง เพราะจากเอกสารที่ฝ่ายพิธีกรรมสร้างหลักเมืองทำขึ้น ก็ได้กล่าวถึงเรื่องสีผึ้งในลักษณะตามที่ทรงมีพระกระแสรับสั่งทุกประการ... |
ราคาเปิดประมูล |
10,000 บาท |
ราคาปัจจุบัน |
10,020 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ |
20 บาท |
วันเปิดประมูล |
ส. - 13 เม.ย. 2567 - 06:57:41 น. |
วันปิดประมูล |
อา. - 14 เม.ย. 2567 - 09:22:19 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล |
Tokyo (9.6K)
|