(0)
เหรียญรุ่น 2 หลังเจดีย์ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล งานสมโภชเจดีย์ 2511 นิยม สวยๆ พร้อมบัตรรับรองGPra







ชื่อพระเครื่องเหรียญรุ่น 2 หลังเจดีย์ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล งานสมโภชเจดีย์ 2511 นิยม สวยๆ พร้อมบัตรรับรองGPra
รายละเอียดเหรียญรุ่น 2 หลังเจดีย์ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล งานสมโภชเจดีย์ 2511 องค์นี้ พิมพ์นิยม ประสบการณ์ หายาก! + บัตรรับรองGPra

สภาพเหรียญสวยๆเดิมๆครับ เป็นอีกรุ่นของหลวงปู่ที่น่าใช้มากๆค่ะ
*** พิธี ปลุกเสกจัดขึ้นในถ้ำกลองเพล วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๑๑ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของ หลวงปู่ขาว เป็นการฉลองหายป่วย และเป็นการฉลองเจดีย์วัดถ้ำกลองเพลไปพร้อมๆ กัน หลวงปู่ขาวจุดเทียนชัย เล่มหนึ่ง หลวงตามหาบัวจุดอีกเล่มหนึ่ง จากนั้นเสกกันทั้งคืนยังรุ่งเช้า***จึงนับว่าเป็นพิธีใหญ่ของพระคณาจารย์สายกัมมัฏฐาน***
รายนามพระคณาจารย์ที่มาร่วมในพิธีมี...... ดังนี้
๑. หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
๒. หลวงปู่บัว สิริปุณโญ วัดป่าหนองแซง
๓. หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร
๔. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโรโครธาราม
๕. หลวงปู่บุญมา ฐิปเปโม วัดสิริสาละวัน
๖. หลวงปู่เทสก์ เทศน์รังสี วัดหินหมากเป้ง
๗. พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด
และ ได้จัดสร้างพระเครื่องเป็นที่ระลึก.. ดังนี้...
๑. รูปเหมือนลอยองค์ (นับเป็นรูปเหมือนรุ่นแรก)
๒. เหรียญรูปไข่ พิมพ์ใหญ่กับพิมพ์เล็ก
๓. เหรียญกลมหลังเจดีย์(รุ่น ๒)
๔. อื่นๆ เช่น เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่บัว สิริปุณโณ วัดป่าหนองแซง (รุ่นแรกและรุ่นสุดท้าย รุ่นเดียวของท่าน)
.. เหรียญรุ่นนี้ถูกแจกออกไปตามกองทหารและตำรวจเป็นส่วนใหญ่ จึงปรากฏประสบการณ์มากมาย เพราะสมัยก่อนแถบอุดรธานี พื้นที่ป่าเขาทั่วๆ ไป เป็นเขตผู้ก่อการร้าย เรียกว่า เป็นพื้นที่สีแดง หากไปแจกให้กับพ่อ ค้าประชาชน คงจะเงียบเชียบไม่มีเรื่องโลดโผนอะไร ประสบการณ์เด่นๆ จึงเป็นเรื่องการปะทะกับผู้ก่อการร้าย เรื่องยิงไม่เข้า คงกระพัน เป็นหลัก เรื่อง โด่งดังที่สุด ได้แก่
*** เรื่องของ รท.ทหารลาว ริเป็นโจรออกปล้นร้านทองในเขต จ.หนองคาย ตำรวจได้นำกำลังและรถกระบะไล่ยิง โจรลาวที่ควบมอเตอร์ไซด์หนี ตำรวจในรถมีปืนรวมกัน ถึง ๕-๖ กระบอก ทั้ง ปืนเอ็ม ๑๖ ลูกซอง และปืนพก ทุกคนยิงไล่หลังโจรลาวเป็นร้อยๆ นัด แต่ไม่ ถูกโจรเลย จนเมื่อตัดสินใจเอารถกระบะพุ่งชนมอเตอร์ไซด์ล้มลง คนซ้อนท้ายตาย แต่ รท.ลาว วิ่งหนีไป ตำรวจยิงตามก็ยังไม่ถูกเช่นเดิม ต่อมา รท.ลาว ได้ก่อเหตุปล้นร้านทอง ในเขต จ.กาฬสินธุ์ อีก ตำรวจนำเฮลิคอปเตอร์ไล่จับจนได้ จึงทราบความจริงว่า รท.ลาว อมเหรียญรุ่น ๒ หลังเจดีย์ ไว้ในปาก
*** อีกเรื่อง อาสาสมัคร ใน อ.น้ำโสม แขวนรูปเหมือนลอยองค์รุ่นแรก ถูก ผกค. ยิงด้วยปืนอาร์ก้า แต่ไม่เข้า เสื้อพรุนด้วยรูกระสุนที่หน้าอก ต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน เพราะช้ำใน นอก จากนี้ยังมีชาวบ้านแถบบริเวณวัด เข้ามากราบหลวงปู่ขาว แล้วเล่าเรื่องถวายหลวงปู่ว่า ตนเองออกไปยิงหมูป่ากับเพื่อน แต่เพื่อนเห็นพุ่มไม้ไหวๆ คิดว่าเป็นหมูป่า จึงเหนี่ยวไก ลูกซองลูกโดด ถูกหน้าผากเต็มๆ หน้าผากบวมเป่ง.
ราคาเปิดประมูล500 บาท
ราคาปัจจุบัน3,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 26 พ.ย. 2564 - 10:59:48 น.
วันปิดประมูล - 29 พ.ย. 2564 - 21:53:05 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลaomm35 (413)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 26 พ.ย. 2564 - 11:00:20 น.



เหรียญรุ่น 2 หลังเจดีย์ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล งานสมโภชเจดีย์ 2511 นิยม


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 26 พ.ย. 2564 - 11:00:48 น.



เหรียญรุ่น 2 หลังเจดีย์ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล งานสมโภชเจดีย์ 2511 นิยม


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 26 พ.ย. 2564 - 11:03:58 น.



หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี

อันที่จริงสถานที่ตั้งวัดได้เปลี่ยนนามไปแล้วตามการปกครอง จากที่อยู่ข้างต้นเป็น อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ด้วยถูกยกสถานะ อำเภอ ให้เป็นจังหวัด ทว่าผมถนัดปากจริง ๆ ให้ดิ้นตายกับที่อยู่เดิม จึงขอยกไว้คนเถิดจะว่าจมปลักก็ยอม

หลวงปู่ขาว อนาลโย เดิมชื่อ ขาว โคระถา เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2431 ณ บ้านบ่อชะเนง ต.หนองแก้ว อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี บิดาชื่อ พั่ว มารดาชื่อ รอด โคระถา มีพี่น้องร่วมอุทร 7 คน โดยท่านเป็นบุตรคนที่ 4

ท่านแต่งงานเมื่ออายุได้ 20 ปี โดยอยู่กินกับ นางมี กระทั่งมีบุตรด้วยกัน 7 คน ต่อมาภรรยาท่านทำในสิ่งมิบังควรคือคบชู้สู่ชาย เป็นเหตุให้ท่านโกรธแค้นมากถึงกับเอามีดดาบติดตามไปหมายจะฆ่าคนทั้งสอง หากเมื่อท่านไปได้ครึ่งทางเกิดความคิดอันหนึ่งผุดขึ้นมาว่า

ที่คิดว่าเราเป็นฝ่ายดีเป็นฝ่ายถูกนั้น แต่เราก็ลุแก่อำนาจโทสะความอาฆาตมาดร้าย เราคิดจะฆ่าคนทีเดียวสองคน จะจัดว่าใครเลวร้ายกว่าใคร?

บัดนั้นเอง ท่านก็เกิดความสลดสังเวชขึ้นในจิต นึกเห็นแต่ความเมตตาสงสารและการให้อภัย ยกมือขึ้นประณมว่า สาธุ ๆ ที่พระธรรมมาโปรดปรานสงบเพลิงกิเลสลงจากใจได้ไม่ทำให้ท่านต้องตกนรก ครั้นพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในชีวิตทางโลกชัดแจ้งแก่จิตแล้ว ท่านจึงปลงใจบวชคิดปฏิบัติธรรมให้เต็มกำลังความสามารถตน

ท่านออกบวชครั้งแรกเมื่ออายุได้ 31 ปี ในฝ่ายมหานิกายที่ วัดโพธิ์ศรี บ้านบ่อชะเนง ต.หนองแก้ว อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2462 มี พระครูพุฒิศักดิ์ เจ้าคณะอำเภอเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์บุญจันทร์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และอยู่จำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรีเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยนี้ถึง 6 ปี

เมื่ออยู่ที่วัดนั้นได้เล็งเห็นโทษของเพื่อนภิกษุที่ไม่ปฏิบัติตามธรรมวินัย ทำให้สลดใจนักคิดขึ้นว่าเป็นดังนี้ก็ไม่สมเจตนาที่ออกบวชมาเพื่อมรรคเพื่อผล จึงไปกราบลาพระอุปัชฌาย์เพื่อออกปฏิบัติธรรม

หลวงปู่ขาวเที่ยวธุดงค์ไปเรื่อยจนได้ยินผู้คนเล่าขานถึงกิตติคุณในท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านก็เกิดความกระหายใคร่จะได้พระแท้อย่างนี้เป็นครู จึงได้เดินทางออกตามหาอยู่เป็นนาน ผ่านป่าเขาลำเนาไพรจนถึงพระธาตุพนม ถึงอุดรธานี วกมาหนองคาย ด้วยเวลานั้นได้ทราบว่าท่านพระอาจารย์ใหญ่วิเวกมาจำพรรษาที่อำเภอท่าบ่อ

ครั้นหลวงปู่ได้มาอยู่ปฏิบัติกับท่านพระอาจารย์มั่น ก็รับรู้ได้ว่านี่คือครูบาอาจารย์ที่ใฝ่หา และนี่คือธรรมแท้ที่ได้ยิน แต่เวลาไม่นานนักท่านพระอาจารย์ใหญ่ก็ออกธุดงค์หนีหายไปอีกด้วยท่านไม่ปรารถนาคลุกคลีกับหมู่คณะเพราะท่านยัง ไม่จบกิจพระศาสนา

ต่อมาได้ทราบว่าท่านพระอาจารย์มั่นอยู่ที่เชียงใหม่ หลวงปู่ก็ตามไป เสาะหาไป ด้วยความยากลำบากกระทั่งได้พบและถือเป็นวาสนาอย่างที่สุด เมื่อท่านพระอาจารย์ใหญ่อนุญาตให้อยู่จำพรรษาด้วย

ครั้นอยู่ใกล้ครูผู้วิเศษสุด หลวงปู่ก็เร่งความเพียรเป็นการใหญ่แทบไม่หลับไม่นอน บางวันท่านเดินจงกรมสลับนั่งสมาธิจนสว่าง คืนหนึ่งจิตเกิดรวมลงอย่างเต็มที่ถึงฐานเดิมแห่งจิต พักใหญ่จึงถอนขึ้นมาแล้วเกิดโอภาสสว่างกระจ่างแจ้งในใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ท่านอัศจรรย์เพลิดเพลินกับธรรมจนรุ่งสางทีเดียว

พอออกจากสมาธิหลวงปู่ก็รีบไปอุปัฏฐากท่านพระอาจารย์มั่นขนบริขารท่านลงมายังที่ฉัน แต่แล้วหลวงปู่ก็เห็นสายตาท่านพระอาจารย์ใหญ่จับจ้องมองท่านตลอดจนผิดสังเกต จากเดิมที่เคยกลัวเกรงท่านพระอาจารย์มั่นเอาหนักหนาอยู่แล้ว ครั้งนี้ยิ่งรู้สึกกระดากอายและหวั่นหนักเข้าไปอีก สำคัญว่าชะรอยเราคงทำอะไรผิดไปหรืออย่างไรแน่

ขณะที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ท่านพระอาจารย์มั่นก็เปรยขึ้นมาว่า

“เออ...ท่านขาวนี้ภาวนาอย่างไร คืนนี้จิตจึงสว่างไสวมากผิดกับที่เคยเป็นมาทุก ๆ คืนนับแต่มาอยู่กับผม ต้องอย่างนี้สิจึงสมกับผู้มาแสวงธรรม ทีนี้ท่านทราบหรือยังว่าธรรมอยู่ที่ไหน คืนนี้สว่างอยู่ที่ไหนล่ะท่านขาว”

หลวงปู่ประณมมือตอบว่า “สว่างอยู่ที่ใจครับผม”

“แต่ก่อนธรรมไปอยู่ที่ไหนเล่าท่านจึงไม่เห็น นั่นแลธรรม ท่านจงทราบเสียแต่บัดนี้เป็นต้นไป ธรรมอยู่ที่ใจนั่นแล ต่อไปท่านจงรักษาระดับจิตระดับความเพียรไว้ให้ดีอย่าให้เสื่อม นั่นแลคือฐานของจิตฐานของธรรม ฐานของความเชื่อมั่นในธรรม และฐานแห่งมรรคผลนิพพานอยู่ที่นั่นแล…”

จากนั้นท่านพระอาจารย์มั่นได้กล่าวว่า “เมื่อคืนนี้ผมส่งกระแสจิตไปดูท่านเห็นจิตสว่างไสวทั่วบริเวณ กำหนดไปทีไรเห็นเป็นอย่างนั้นอยู่ตลอดจนสว่าง เพราะเมื่อคืนนี้ผมมิได้พักนอนเลย เข้าสมาธิภาวนาไปบ้าง ต้อนรับแขกเทพบ้าง กำหนดจิตดูท่านบ้างเรื่อยมาจนสว่างโดยไม่รู้สึก พอออกจากที่จึงต้องมาถามท่านเพราะอยากรู้เรื่องของหมู่คณะมานาน สบายไหม ? ... อัศจรรย์ไหม ?”

คราวนี้หลวงปู่ไม่กล้าเรียนตอบท่าน ได้แต่นิ่งเงียบไปด้วยความยำเกรงเป็นที่สุด นึกในใจว่าจะตอบไปเพื่ออะไรในเมื่อท่าน ส่อง มาเห็นตับเห็นปอดเราหมดแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนก็เชื่ออยู่แล้วว่าท่านพระอาจารย์มั่นสามารถรู้วาระจิตความคิดคน สัตว์ และวิญญาณได้ พอมาเจอเข้ากับตัวเช่นนี้ก็เพิ่มความระมัดระวังจิตเจ้าของยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งเกรงกลัวท่านเป็นเท่าทวี

เมื่ออยู่ด้วยท่านพระอาจารย์ใหญ่กระทั่งท่านลงใจซึ่งกันและกัน หลวงปู่ขาวก็ได้รับอนุญาตให้ญัตติเป็นพระธรรมยุติได้ โดยท่านทำญัตติจตุตถกรรมพร้อมกับหลวงปู่หลุย จันทสาโรโดยหลวงปู่หลุยเป็นนาคขวาบวชก่อนท่าน 15 นาที และหลวงปู่ขาวเป็นนาคซ้าย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2468 ตรงกับ แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีฉลู มีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์

พอเป็นธรรมยุติก็สะดวกในการประกอบสังฆกรรมต่าง ๆ การอยู่จำพรรษาร่วมกันก็ราบรื่นไม่เป็นอุปสรรค หลวงปู่จึงทำความเพียรได้อย่างหมดห่วงกังวล และในที่สุดท่านก็ จบกิจพระศาสนา ลงที่กระต๊อบเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ณ บ้านโหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ จะพูดอีกทีว่าหลวงปู่ขาวเป็น...

พระอรหันต์ องค์หนึ่งก็ไม่ผิด

ไปดูอัฐิท่านได้

กระดูกคนทั่วไปมีหรือจะแปรเปลี่ยนให้มีลักษณ์ดังเพชร-พลอยได้ อย่าว่าแต่กระดูกเลย แม้เส้นเกศา... แม้เล็บมือ... แม้ชานหมาก หรือแม้แต่ อึ ของท่านก็เป็น...
พระธาตุ !

นี่คือเรื่องจริงซึ่งเกิดขึ้นในโลกที่ปกคลุมด้วยกิเลสตัณหาใบนี้ หลักฐานมีให้ดูอยู่พร้อมสรรพที่วัดถ้ำกลองเพลในปัจจุบัน เรื่องจริงอย่างนี้ใครเชื่อก็จริง หรือใครไม่เชื่อก็จริงอยู่อย่างนั้น เพราะสัจจะความจริงนั้นไม่ขึ้นกับเชื่อหรือไม่เชื่อของใคร

แต่อย่าปรามาสแล้วกัน


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 26 พ.ย. 2564 - 11:04:35 น.



*** พิธี ปลุกเสกจัดขึ้นในถ้ำกลองเพล วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๑๑ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของ หลวงปู่ขาว เป็นการฉลองหายป่วย และเป็นการฉลองเจดีย์วัดถ้ำกลองเพลไปพร้อมๆ กัน หลวงปู่ขาวจุดเทียนชัย เล่มหนึ่ง หลวงตามหาบัวจุดอีกเล่มหนึ่ง จากนั้นเสกกันทั้งคืนยังรุ่งเช้า***จึงนับว่าเป็นพิธีใหญ่ของพระคณาจารย์สายกัมมัฏฐาน***
รายนามพระคณาจารย์ที่มาร่วมในพิธีมี...... ดังนี้
๑. หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
๒. หลวงปู่บัว สิริปุณโญ วัดป่าหนองแซง
๓. หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร
๔. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโรโครธาราม
๕. หลวงปู่บุญมา ฐิปเปโม วัดสิริสาละวัน
๖. หลวงปู่เทสก์ เทศน์รังสี วัดหินหมากเป้ง
๗. พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด
และ ได้จัดสร้างพระเครื่องเป็นที่ระลึก.. ดังนี้...
๑. รูปเหมือนลอยองค์ (นับเป็นรูปเหมือนรุ่นแรก)
๒. เหรียญรูปไข่ พิมพ์ใหญ่กับพิมพ์เล็ก
๓. เหรียญกลมหลังเจดีย์(รุ่น ๒)
๔. อื่นๆ เช่น เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่บัว สิริปุณโณ วัดป่าหนองแซง (รุ่นแรกและรุ่นสุดท้าย รุ่นเดียวของท่าน)


 
ราคาปัจจุบัน :     3,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Aeyoku (1K)

 

Copyright ©G-PRA.COM