ชื่อพระเครื่อง | @@พระสมเด็จพิมพ์ประธาน กรุวัดขุนอินทรประมูล อ่างทองลองอ่านประวัติกันก่อนนะครับ@@ |
รายละเอียด | พระสมเด็จพิมพ์ประธาน กรุวัดขุนอินทรประมูล อ่างทอง
เป็นพระผงสีขาวที่มีมวลสารตามทฤษฎีของพระสมเด็จพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี วัดระฆังโฆษิตาราม เป็นพระรูปทรง
สี่เหลี่ยมและมีขนาดเท่าๆ กับ พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม พุทธศิลป์ใกล้เคียงกับพระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตารามมาก แต่ก็มีพุทธพิมพ์ในรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้างอันเป็นเอกลักษณ์แม่พิมพ์ของ พระสมเด็จ กรุขุนอินทประมูลโดยเฉพาะ
พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลนั้น ท่านผู้รู้ในจังหวัดอ่างทอง ได้ขนานพระนาม เป็นพระพิมพ์ว่า
๑. พระพิมพ์พระประธาน ๒. พระพิมพ์ใหญ่
๓. พระพิมพ์ทรงเจดีย์ ๔. พระสมเด็จองค์เล็ก หรือ พิมพ์คะแนน
เอกลักษณ์ของพระประธานนั้นเป็นพระพิมพ์ 3 ชั้น มีเส้นแซมใต้ตักที่มีขนาดค่อนข้างหนาอย่างเห็นได้ชัด ซุ้มเรือน
แก้ว เป็นซุ้มผ่าหวายที่เส้นใหญ่และคมลึกมาก องค์พระประธานจะมีพุทธศิลป์ที่ล่ำสันสง่างามมาก มีความลึกมากกว่าพิมพ์
์อื่นเล็กน้อย เศียรขององค์พระเป็นรูปกลมรีในพุทธลักษณะของศิลปะสุโขทัย คือมีคางเล็กลงและเชื่อมลงมายังต้นคอของ
องค์พระซึ่งเห็นอยู่ในทีเท่านั้น มิได้เป็นรูปแท่งของลำคอเหมือนพระรุ่นใหม่ทั่วไปพุทธศิลป์ที่แตกต่างกับพระสมเด็จวัดระฆัง โฆษิตารามพิมพ์ใหญ่คือ ไม่ปรากฏมีหูอยู่รำไร พระพักตร์ไม่ปรากฏมีหน้าตาชัด พระเกศเป็นกรวยยาวแหลมขึ้นไปจรดครอบ
แก้ว
พระพุทธศิลป์ที่คล้ายคลึงกับพระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตารามก็คือที่รักแร้ขององค์พระประธานด้านซ้ายมือจะลึกสูงกว่า
ซอกรักแร้ด้านขวามือขององค์พระประธาน หน้าตักซ้ายขององค์พระประธานจะสูงขึ้นกว่าหน้าตักทางขวามือขององค์พระ
ประธานเป็นเหตุให้พุทธลักษณะขององค์พระประธานจะนั่งเอียงจากฐานเล็กน้อยซึ่งเหมือนกับพุทธศิลป์ของ พระสมเด็จ
วัดระฆังโฆษิตารามพิมพ์ใหญ่
ฐานทั้ง 3 ชั้นจะใหญ่และลึก มีฐานสิงห์ปรากฏที่ ฐานชั้นสอง ทั้ง 2 ข้าง พุทธศิลป์พิมพ์หลังเป็นพิมพ์หลังเรียบ
ทั้ง 3 พิมพ์เหมือนกัน การตัดพิมพ์ขององค์พระนั้น เมื่อปั๊มแม่พิมพ์แล้วน่าจะตัดด้วยตอกจากด้านหลังขององค์พระเสร็จ
แล้วจึงถอดองค์พระออกจากแม่พิมพ์ เหมือนพระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม จึงไม่ปรากฏมีเนื้อปลิ้นบนขอบตัดด้านหน้าซึ่ง
จะแตกต่างจากพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม ซึ่งตัดจากด้านหน้าไปยังด้านหลัง จึงปรากฏขอบตัดที่ปลิ้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การตัดแม่พิมพ์นั้น ถึงจะเป็นการตัดแม่พิมพ์จากด้านหลังมาสู่ด้านหน้า แต่ก็ใช้กรรมวิธีตัดขอบที่ไม่เหมือนกัน จึง
ไม่ปรากฏรอยปูไต่บนพิมพ์ด้านหลังทั้ง 4 ขอบ จึงสันนิษฐานได้ว่าอาจจะใช้ตอกตัดตรงทั้ง 4 ด้านทุกองค์
มวลสารขององค์พระนั้นมีเอกลักษณ์ของสมเด็จวัดระฆังค่อนข้างจะครบสูตรคือ มีรอยพรุนบนองค์พระทั่วๆไป จึง
สันนิษฐานได้ว่าน่าจะมีส่วนผสมของผงธูปที่บูชาพระ เมื่อพระได้อายุนานปีผงธูปได้หดตัวและเสื่อมหายไป จึงเกิดรอย
รูพรุนหรือรอยเข็มทั่วไป
รอยบุ้งไต่หรือรอยหนอนด้นซึ่งเกิดจากมวลสารที่เป็นดอกไม้ พืชผักหรือเนื้อสัตว์ที่เป็นเศษอาหาร เมื่อสลายตัวแล้ว
จึงปรากฏร่องรอยที่เหลืออยู่ เป็นรอยคล้ายบุ้งไต่หรือหนอนด้น คล้ายกับพระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม
เม็ดพระธาตุ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม คือเป็นมวลสาร ที่ผสมด้วยเศษปูนเก่าที่
ี่ตำละเอียดผสมอยู่ในมวลสารของการสร้างพระ เมื่อพระสมเด็จมีอายุเป็นร้อยปี เศษปูนเก่าและส่วนผสมของปูนใหม่
มีการหดตัวและมีรอยแยกกันเป็นธรรมชาติสำหรับไม้ก้านธูปหรือเศษมวลสารอื่นๆซึ่งมีในพระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม
นั้น ยังไม่พอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้
###ขออนุญาตและขอขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.khuninthapramul.com มาณ.ที่นี้ด้วยครับท่านใดที่อยากทราบข้อมูลเชิญเข้าไปชมได้เลยครับ### |
ราคาเปิดประมูล | 3,000 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 5,800 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 200 บาท |
วันเปิดประมูล | - 27 ม.ค. 2552 - 10:12:36 น. |
วันปิดประมูล | - 28 ม.ค. 2552 - 10:41:54 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | shirew (4.6K)
|